10 วิธีรักษารอยดำ รอยแดง จากสิว ให้ผิวพรรณห่างไกลจากสิ่งสกปรกบนใบหน้า
รอยดำ รอยแดง จากสิว เป็นปัญหาเรื้อรังที่ทำให้สุขภาพผิวพรรณของคนไข้ ต้องมีสภาพผิวที่ไม่เรียบเนียน หม่นหมอง พร้อมทำให้สีผิวเกิดฝ้า กระ จุดด่างดำ บนผิวให้ดูไม่กระจ่างใส โดยบทความนี้จึงมาแนะนำ 10 วิธีรักษา รอยสิวต่างๆ ในบทความนี้
รอยดำ รอยแดง จากสิว
รอยดำ รอยแดง จากสิว เกิดจากหัวสิวที่ถูกเม็ดเลือดขาวกระตุ้นรวมกันจนกลายเป็นสิวอักเสบ ผิวที่อยู่รอบๆ หัวสิวเป็นรอยแดงใต้ผิวหนัง ส่งผลให้หลอดเลือดใต้ชั้นผิวหนังปูดบวมขึ้นมาจากการเบียดเบียนของหัวหนอง แม้สิวจะหลุดออกไปแล้ว แต่รอยแดงยังเหลือร่องรอยไว้อยู่ หากไม่ได้รับการบำรุงรักษา แผลถลอกรอยแดงสิวจะกลายเป็นรอยดำในภายหลัง
รอยดำ Vs รอยแดง ต่างกันอย่างไร
- รอยดำ ช้ำจากการกดสิว และ เกิดการแพ้ระคายเคืองผิวเป็นผดผื่น เมื่อผิวเกิดกระบวนการซ่อมแซม ผิวที่เป็นแผลจะกลายเป็นแผลถลอกวงตรงกลาง หากไม่ได้รับการรักษาเรียบร้อยจะกลายเป็นวงดำ และอีกกรณีหนึ่ง คือ เกิดจากสิวอักเสบได้ทำปฏิกิริยากระตุ้นสารเม็ดสีเมลานิน ทำให้ผิวที่อักเสบเป็นจุดด่างดำ บางเคส อาจเป็นรอยดำสีอื่นๆ เช่น สีน้ำตาลอ่อน , สีน้ำตาลเข้ม , สีเทา ตามระดับความรุนแรงของสิวอักเสบ
- รอยแดง จากสิวเกิดจากผิวหนังรอบๆ หัวสิวเกิดการอักเสบ เมื่อผิวหนังเกิดกระบวนการซ่อมแซม หลอดเลือดใต้ผิวหนังที่ทำหน้าที่ฟื้นฟูขยายตัวขึ้นมา ส่งผลให้ผิวหนังบวมเป่งเป็นสีแดง สีชมพู หรือสีม่วง ตามระดับความรุนแรงชนิดของสิวอักเสบ
รอยดำ รอยแดง จากสิวเกิดจากสาเหตุใด
สาเหตุของการเกิด รอยดำ รอยแดง จากสิว มีต้นเหตุมาจากกลไกการทำงานของชั้นผิวหนังผิดปกติ ดังนี้
สาเหตุของรอยดำจากสิว
รอยดำจากสิว เกิดขึ้นได้จากรอยแดงหลังกดสิว ได้ทิ้งรอยแผลถลอกเอาไว้ หากปล่อยไว้แผลอาจกระตุ้นสารเมลานินให้ผลิตเม็ดสีที่ไม่สมดุลกับสภาพสีผิวปัจจุบัน ให้เป็นรอยจุดด่างดำทิ้งไว้บนผิวหน้าได้
สาเหตุของรอยแดงจากสิว
รอยแดงจากสิว เกิดขึ้นจากกลไกการผลิตต่อมไขมันชั้นใต้ผิวหนัง ได้ผลิตน้ำมันมามากเกินไป จึงทำให้ผิวหนังได้กระจุกอุดตันในรูขุมขน จนเป็นสิวขึ้นมา หากแบคทีเรียไปสะสมอยู่ในสิว อาจทำให้เซลล์ผิวหนังโดยรอบตาย ส่งผลให้บริเวณผิวหนังโดยรอบเกิดการระคายเคือง จนในที่สุดกลายเป็นสิวอักเสบขึ้นมา
ลักษณะสิวที่อาจทำให้เกิดรอยดำ รอยแดง
4 ลักษณะสิวที่อาจทำให้เกิดรอยดำ รอยแดง จากสิว มีดังนี้
- สิวหัวขาว (Whitehead acne) เกิดจากน้ำมันที่ถูกผลิตในปริมาณมากเกินไป ได้ทำการอุดตันปิดรูเปิดต่อมไขมัน
- สิวยีสต์ (Fungal acne) เกิดจากการติดแบคทีเรีย กับเชื้อรากลุ่มมาลาสซีเซีย (Malassezia species) ที่เจริญเติบโตในรูขุมขนจนกลายเป็นสิวเกิดการระคายเคืองรุนแรง เป็นกากเกลื้อน และอาจลามผิวหนังบริเวณใกล้เคียงติดเชื้อได้
- สิวหัวช้าง (Nodulocystic acne) เกิดจากสิวอักเสบมีปริมาณไขมันสะสมชั้นใต้ผิวหนังมากเกินไป ทำให้สิวกลายสิวหัวหนองไร้หัวเป็นเม็ดไตขนาดใหญ่
- สิวหัวหนอง (Pustules) เกิดจากการอุดตันของไขมันใต้ผิวหนัง , การทำความสะอาดไม่เรียบร้อยจนทำให้สิ่งสกปรกที่ตกค้างมาอุดตันในรูขุมขน รวมไปถึงฮอร์โมนเพศที่เปลี่ยนไป
รอยดำ รอยแดงจากสิว หายเองได้ไหม
รอยดำ รอยแดงจากสิว สามารถรักษาให้หายขาดได้ด้วยตัวเอง โดยใช้ยาบำรุงผิวรักษารอยช้ำบีบสิว อย่าง ครีมลดรอยดำ รอยแดงจากสิว หรือ การทานยาเม็ดตามแพทย์แนะนำ แต่จะใช้ระยะเวลากับวินัยการดูแลตัวสูง หากมีความตั้งใจ เรามั่นใจได้ว่า รอยสิวจะหายเกลี้ยงแน่นอน
10 วิธีรักษารอยดำ รอยแดง จากสิว ให้หายขาด
แนะนำ 10 วิธีรักษาที่ช่วยลด รอยดำ รอยแดง จากสิวให้จางหายไป แล้วฟื้นฟูสภาพผิวให้กลับมาสดใสอีกครั้ง มีดังนี้
1. ใช้ผลิตภัณฑ์ช่วยลดรอยสิว
ก่อนซื้อผลิตภัณฑ์ช่วยลดรอยสิว ควรดูส่วนประกอบจากฉลากสินค้าก่อนซื้อเสมอ โดยผู้ซื้อจะต้องดูส่วนผสมสารรักษาสิว ต้องมีสารเรตินอยด์ (กรด วิตามิน A) ที่มีคุณสมบัติการผลัดเซลล์ผิวที่ตายไป ให้ถูกกระตุ้นการสร้างเนื้อเยื่อใหม่ ลดการอุดตันในรูขุมขน , วิตามิน C มีคุณสมบัติช่วยให้ผิวที่หมองคล้ำกลับมาดูกระจ่างใส และ กรด BHA กับ AHA ช่วยทำความสะอาดสิ่งสกปรกหายออกไปจากใบหน้า ให้ผิวนุ่มลื่น เนียนใส ละลายน้ำมันส่วนเกินให้รูขุมขนกลับมากระชับเหมือนเดิม
2. ใช้ยาทารอยสิวเฉพาะจุด
การใช้ยาทารักษารอยดำ รอยแดงจากสิวเฉพาะจุด ควรเลือกดูส่วนผสมทั้ง 7 สาร ดังนี้
- ไฮโดรควิโนน (Hydroquinone) มีคุณสมบัติยับยั้งการเปลี่ยนแปลงเม็ดสีของผิว ไม่ให้ผิวเป็นจุดด่างดำ กระ ฝ้า
- เทรติโนอิน (Tretinoin) มีคุณสมบัติ รักษาสิวอักเสบและอุดตันในรูขุมขน พร้อมป้องกันกระบวนการกระตุ้นเม็ดสีของผิวหนังไม่ให้เป็นรอยดำจากสิวได้ทีหลัง
- วิตามิน C (Vitamin C) มีคุณสมบัติยับยั้งเอมไซม์ไทโรซิเนส (Tyrosinase) บรรเทาอาการอัดเสบของสิวอุดตัน ลดรอยแดง
- อาร์บูติน (Arbutin) มีคุณสมบัติยับยั้งเอมไซม์ไทโรซิเนส และกรดอมิโนโดพามีน (Dopamine) ที่ก่อให้เกิดสารต้านอนุมูลอิสระที่ทำร้ายชั้นผิวหนังให้เกิดการอักเสบได้
- กรดโคจิก (Kojic Acid) มีคุณสมบัติลดฝ้า กระ จุดด่างดำผิวให้จางหายไป
- กรดไกลโคลิก (Glycolic Acid) มีคุณสมบัติผลัดเซลล์ผิวที่เป็นฝ้า กระ และจุดด่างดำให้ลดลง และปรับสภาพสีผิวให้มีความสม่ำเสมอ
- ไนอาซินาไมด์ (Niacinamide) มีคุณสมบัติลดเลือนจุดรอยดำ รอยแดง จากรอยสิวให้ได้ถูกการฟื้นฟู ปรับเม็ดสีผิวให้กลับมาสมดุล
3. ทำเลเซอร์รักษารอยดำ รอยแดงจากสิว
การทำเลเซอร์รักษารอยดำ รอยแดง จากสิว จะใช้กลไกคลื่นพลังงานความร้อนที่มีแสงเข้มข้นสูง ช่วยทำให้หลอดเลือดที่ปูดบวมเป็นส่วนเกิน ให้ถูกย่อยสลายออกไป พร้อมลบรอยดำให้ผิวกลับมาดูกระจ่างใส และลดรอยแผลสิวให้ดูจางลง ช่วยทำให้ผิวพรรณเรียบเนียน ปรับเม็ดสีผิดปกติให้ถูกกระตุ้นกลไกการซ่อมแซมผิวให้ถูกฟื้นฟูอย่างสมดุล
4. ฉีดวิตามินเมโสหน้าใส
ฉีดวิตามินเมโสหน้าใส เป็น Treatment บำรุงหน้าให้กลับมาสดใส หน้าดูอ่อนเยาว์ลงอีกครั้ง เป็นวิธีรักษาที่ช่วยลดรอยดำ รอยแดง จากสิว ด้วยการฉีดสารวิตามินต่างๆ ให้กระตุ้นกระบวนการผลัดเซลล์ผิวใหม่ เกิดกลไกการสร้างเนื้อเยื่อเพื่อซ่อมแซมผิวที่เป็นแผล จากการติดเชื้อแบคทีเรีย สิ่งสกปรก และสารที่ก่อให้เกิดระคายเคืองต่างๆ
5. ทำ Microneedling
ลดหลุมสิว รอยสิว รอยดำ ให้หายขาดด้วยการรักษารอยแดงจากสิวเร่งด่วน ‘Microneedling’ เป็นการฟื้นฟูผิวด้วยการฉีดเข็มผิวชั้นใต้ผิวหนังให้เกิดรอยแผลเล็ก เพื่อกระตุ้นสร้างสารคอลลาเจนชั้นผิวหนังให้เกิดการฟื้นฟูเร่งด่วน กระชับรูขุมขน ให้จุดด่างดำ รอยแดงดูจางลง
6. ใช้ผลิตภัณฑ์ช่วยผลัดเซลล์ผิว
ก่อนซื้อผลิตภัณฑ์ควรซื้อส่วนผสมที่มีคุณสมบัติในการผลัดเซลล์ผิว เช่น กรดวิตามิน A และ กรดไกลโคลิก ให้รอยแผลสิวหลุดลอกออกไป ให้เซลล์ผิวเกิดกลไกการสร้างเนื้อเยื่อใหม่ ปรับสภาพเม็ดสีให้ถูกผลิตออกมาเป็นสีผิวอย่างสม่ำเสมอ
7. สครับหน้าขจัดเซลล์ผิวที่ตาย
การใช้สครับหน้าขจัดเซลล์ผิวที่ตายไป จะช่วยทำความสะอาดรูขุมขนที่สะสมคราบสกปรกอุดตันให้หายออกไป ปรับสภาพผิวให้เรียบเนียนกระจ่างใส ลดความมัน ขจัดเซลล์ผิวที่เป็นรอยดำ รอยแดง จากสิวให้จางหายไป
8. มาส์กหน้าด้วยสมุนไพร
บำรุงหน้าใส ให้ห่างไกลจากรอยดำ รอยแดง จากสิว ด้วยมาส์กหน้าจากสารสกัดสมุนไพรอย่าง ใบชาเขียว ใบบัวบก ขมิ้นชัน มีสรรพคุณผลัดเซลล์ผิวที่หม่นหมองให้สะอาด และดูกระจ่างใส ไม่ทำให้ผิวไวต่อแสงแดด พร้อมควบคุมความมันให้ลดการสะสมในรูขุมขนลดลง
9. ทาครีมกันแดด
การทาครีมกันแดด จะเป็นเกราะป้องกันแสงแดด ช่วยลดอัตราการเกิดรอยจุดด่างดำ ฝ้า กระ และป้องกันการเกิดรอยแดงให้ห่างไกลจากผิวไหม้ได้อย่างปลอดภัย
10. ทานอาหารเสริม
การทานอาหารเสริมบำรุงรอยดำ รอยแดง จากสิว สามารถกู้ผิวกลับคืนมาให้พื้นผิวมีสีสุขภาพดี ด้วยการทานเสริมอาหารที่มีสารสกัดวิตามิน A กับ วิตามิน C ที่มีสรรพคุณช่วยผลัดเซลล์ผิวที่เสียให้เกิดการสร้างเนื้อเยื่อสมานขึ้นมาใหม่ และบำรุงหน้าให้กระจ่างใส ลดรอยต่างๆ ให้ดูจางหายไป
ดูแลตัวเองอย่างไรเมื่อมีรอยดำ รอยแดงจากสิว
การดูแลตัวเองในขณะมีรอยดำ รอยแดง จากสิว สามารถปฏิบัติ 4 วิธี ดังนี้
- บำรุงผิวให้ชุ่มชื่นอยู่เสมอ เพื่อป้องกันสภาพผิวแห้งกร้าน ที่ก่อให้เกิดริ้วรอยได้ในภายหลัง
- ทาครีมกันแดดก่อนออกจากบ้านทุกครั้ง
- ใช้ผลิตภัณฑ์รักษาสิวที่เหมาะสมกับผิว ลดการใช้สารบำรุงที่ก่อให้เกิดระคายเคืองต่อผิว
- ปรึกษาปัญหาสิวกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อได้รับคำแนะนำการรักษาที่ถูกวิธี
แนวทางป้องกันไม่ให้เกิดรอยดำ รอยแดงจากสิว
การป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดรอยดำ รอยแดง จากสิว สามารถปฏิบัติ 6 วิธี ดังนี้
- ไม่แกะ แคะ สิวด้วยตัวเอง เพื่อป้องกันไม่ให้ผิวเป็นแผลถลอก และรูขขุมขนกว้างขึ้น
- ล้างหน้าให้สะอาด ใช้ผลิตภัณฑ์เช็คเครื่องสำอาง พร้อมใช้ครีมบำรุงผิวให้มีความชุ่มชื้นอยู่เสมอ
- งดใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมวิตามิน E เพราะอาจสร้างความระคายเคืองแก่ผิว และรบกวนกระบวนการฟื้นฟูผิวอีกด้วย
- ไม่อยู่สถานที่ๆ มีแสงแดดจ้า เพราะรังสี UVA กับ UVB จะทำให้ผิวหนังไหม้และทำลายเซลล์ผิวชั้นใต้ผิวหนังได้
- เลือกใช้ครีมบำรุงผิวบนใบหน้าให้เหมาะสมกับสภาพผิวของตัวเอง
- ทานยา และรักษารอยดำ รอยแดง จากสิว ตามคำแนะนำของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอย่างเคร่งครัด
FAQs รอยดำ รอยแดงจากสิว
รอยดำ รอยแดงจากสิว กี่วันหาย ใช้เวลารักษานานไหม
การรักษารอยแดง รอยดำ กี่เดือนหาย จะขึ้นอยู่กับสภาพความรุนแรงของรอยดำ รอยแดงจากสิวมีความรุนแรงมากน้อยแค่ไหน หากอาการสิวมีความรุนแรงขั้นวิกฤต อาจใช้ระยะเวลานานเป็นสัปดาห์หรือเป็นเดือน ดังนั้นการรักษาสิวพร้อมทายาบำรุงเสริมจะช่วยให้ประสิทธิภาพการซ่อมแซมผิวเร็วขึ้น
รอยดำ รอยแดง รอยช้ำจากการกดสิว รักษาอย่างไร
รอยดำ รอยแดงหลังกดสิว สามารถทำทรีทเมนท์ เลเซอร์รอยแดงสิว กับ ทำเลเซอร์รอยดำ เฉพาะจุดให้จางหายไป เป็นอีกหนึ่งวิธีที่รักษา รอยดำ รอยแดง จากสิวให้หายไปได้อย่างรวดเร็ว
ข้อสรุป
การบำรุงรักษา รอยดำ รอยแดง จากสิว ให้หายขาด จะขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการดูแลรักษาของคนไข้เองเช่นกัน ดังนั้นหากต้องการรักษาสิวให้จางหายไป ควรปรึกษานัดพบแพทย์ เพื่อได้รับคำแนะนำการรักษาได้ถูกจุด
ขอขอบคุณข้อมูลจาก https://www.mvitaclinic.com/