สมัครบัตรกดเงินสดออนไลน์ ง่าย ๆ เพื่อใช้จ่ายยามฉุกเฉิน
ด้วยสภาวะเศรษฐกิจที่แย่ลงหลายครอบครัวอาจจะหมุนเงินไม่ทัน ทำให้ต้องมองหาทางเลือกโดยการสมัครบัตรกดเงินสดออนไลน์ เพื่อกดเงินสดออกมาใช้จ่ายสิ่งจำเป็น หรือในยามฉุกเฉิน ปัจจุบันบัตรกดเงินสดนอกจากจะหยิบมาใช้เพื่อเบิกถอนเงินสดแล้ว ยังมีประโยชน์ในด้านอื่น ๆ อีกด้วย
บทความนี้ เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับบัตรกดเงินสดกันให้มากยิ่งขึ้น ตั้งแต่การสมัครบัตรกดเงินออนไลน์ทำอย่างไร เลือกทำกับธนาคารไหนดี ควรใช้อย่างไรให้ไม่เกิดหนี้จนเกินตัว มาดูไปพร้อม ๆ กัน
อยากสมัครบัตรกดเงินสดใบแรก ต้องมีฐานเงินเดือนเท่าไหร่
สำหรับการสมัครบัตรกดเงินสดออนไลน์ในแต่ละธนาคารก็จะกำหนดไว้ว่า ผู้ที่สมัครบัตรเงินสดออนไลน์นั้นควรมีคุณสมบัติตามเงื่อนไข หนึ่งในคุณสมบัตินั้นก็คือฐานเงินเดือนของผู้สมัคร ซึ่งในปัจจุบันการสมัครบัตรกดเงินสดออนไลน์นั้นฐานเงินเดือนไม่สูงก็สามารถสมัครได้เช่นกัน ยกตัวอย่างเช่น บัตรกดเงินสด KTC PROUD เงินเดือนเริ่มต้น 12,000 บาทสามารถสมัครได้แบบไม่ต้องใช้คนค้ำ หรือใครที่เพิ่งจะเริ่มต้นทำงานได้เพียง 4-6 เดือนก็สามารถสมัครได้เช่นกัน
จะเห็นว่าคุณสมบัติของผู้สมัครนั้นได้มีการปรับเปลี่ยนให้คนหลาย ๆ กลุ่มได้เข้าถึงสินเชื่อบัตรกดเงินสดมากขึ้น แต่ทั้งนี้วงเงินนั้นก็จะขึ้นอยู่กับคุณสมบัติของผู้สมัครด้วยเช่นกัน และสถาบันทางการเงินเป็นผู้กำหนด
สมัครบัตรกดเงินสดออนไลน์ ต้องทำยังไง
หากคุณต้องการสมัครบัตรกดเงินสดสามารถทำได้หลากหลายวิธี ไม่ว่าจะเป็น เดินทางไปสมัครที่สถาบันการเงิน โทรคุยกับ Call center และวิธีที่สะดวกที่สุดคือการสมัครบัตรกดเงินสดออนไลน์ ยกตัวอย่างขั้นตอนการสมัครบัตรกดเงินสดออนไลน์ KTC PROUD โดยสมัครผ่าน E-App โดยมีขั้นตอนดังนี้
- ดาวน์โหลด Application KTC PROUD
- เลือก “สมัครผลิตภัณฑ์”
- เลือกแถบเมนู บัตรกดเงินสด KTC PROUD และกรอกช่วงเงินเดือนในขั้นตอนถัดไป
- เลือกผลิตภัณฑ์บัตรกดเงินสด KTC PROUD แล้วเลือกบัตรที่ต้องการสมัคร
- อ่านและกดยอมรับข้อกำหนดและเงื่อนไข
- กรอกเบอร์โทร และยืนยันด้วย OTP ที่ได้รับทาง SMS เป็นการให้ความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
- กรอกรายละเอียดข้อมูลสินเชื่อบุคคลที่ใช้บริการอยู่
- สแกนบัตรประชาชนตัวจริง ให้ตรงตามกรอบที่กำหนดไว้
- กรอกรหัสหลังบัตรประชาชน และอีเมลพร้อมตรวจสอบข้อมูล
- ตั้งรหัส PIN 6 หลัก
- กรอกข้อมูลที่อยู่ และข้อมูลส่วนตัว เช่น อาชีพ รายได้ เป็นต้น
- กรอกข้อมูลที่ใช้สำหรับรับบริการเบิกถอน พร้อมแนบรูปภาพสมุดบัญชีหน้าแรก
- อัปโหลดเอกสารแสดงรายได้
- เลือกช่องทางการยืนยันตัวตน
- ยืนยันตัวตน โดยเปิดแอปธนาคารที่เลือก ไปที่ข้อความแจ้งเตือนและทำการยืนยันตัวตน เมื่อเสร็จแล้วให้กลับมาที่ลิงก์เดิม
- ยืนยันข้อมูล
- ยอมรับข้อตกลง
- ยืนยันด้วยรหัส PIN เพื่อยืนยันการสมัคร
- การสมัครเป็นอันเสร็จสิ้น
สมัครบัตรกดเงินสดออนไลน์อันตรายไหม
การสมัครบัตรกดเงินสดออนไลน์นั้นจำเป็นจะต้องกรอกข้อมูลส่วนบุคคลค่อนข้างเยอะ คำถามที่หลายคนกำลังสงสัยก็คือการกรอกข้อมูลส่วนตัวนั้นจะอันตรายหรือไม่ โดยระบบสำหรับการสมัครบัตรกดเงินสดออนไลน์นั้นเป็นซอฟต์แวร์ที่ธนาคารพัฒนาขึ้นมาซึ่งมีความปลอดภัยสูง ยืนยันตัวตนด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยอย่างระบบ NDID ช่วยให้คุณหมดห่วงเรื่องข้อมูลจะรั่วไหล และมีความปลอดภัยแน่นอน
สมัครบัตรกดเงินออนไลน์กับสถาบันทางการเงินไหนดี
การเลือกสถาบันการเงินที่เปิดให้บริการสมัครบัตรกดเงินสดออนไลน์ก็เป็นเรื่องที่คุณควรพิจารณาให้ดีเช่นกัน เพื่อให้ได้บัตรกดเงินที่ใช้ได้คุ้มที่สุด ควรพิจารณาเลือกดังนี้
- เลือกสมัครบัตรกดเงินสดออนไลน์กับธนาคารที่คิดอัตราดอกเบี้ยต่ำ รวมไปถึงเงื่อนไขในการชำระเงิน
- เลือกสมัครบัตรกดเงินสดออนไลน์ที่มีสิทธิประโยชน์ที่คุ้มค่า รวมถึงโปรโมชันต่าง ๆ ที่จะเป็นประโยชน์ต่อผู้สมัคร
- เลือกสมัครบัตรกดเงินสดออนไลน์กับธนาคารที่ให้วงเงินกับคุณมากพอในการใช้จ่าย
- เลือกบัตรกดเงินที่ใช้ผ่อนสินค้าได้ เผื่อความสะดวกสบายในการใช้งาน
บัตรกดเงินสด ใช้ยังไงไม่ให้มีหนี้เสีย
เคล็ดไม่ลับที่จะช่วยให้ผู้ที่สมัครบัตรกดเงินออนไลน์ใช้จ่ายอย่างไรไม่ให้เป็นหนี้ และเกิดประโยชน์สูงสุด
- ไม่จ่ายหนี้บัตรกดเงินสดด้วยวงเงินขั้นต่ำ เพื่อไม่ให้เกิดดอกเบี้ยที่เยอะเกินไป และจะทำให้เป็นหนี้ไม่รู้จบสิ้น ควรจ่ายหนี้เต็มจำนวนทุกครั้ง
- จ่ายหนี้บัตรให้ตรงเวลา หรือจ่ายก่อนที่จะมีใบแจ้งหนี้มาก็ได้เช่นกันจะช่วยให้เราไม่ต้องเสี่ยงที่จะโดนค่าปรับ ค่าทวงถามหนี้ หรือทำให้เสียประวัติ
- ควรใช้จ่ายเงินอย่างระมัดระวังหรือใช้เท่าที่จำเป็น
สมัครบัตรกดเงินสดออนไลน์สะดวก รวดเร็ว ปลอดภัยมากขึ้น
ทางเลือกอย่างการสมัครบัตรกดเงินสดออนไลน์ที่จะช่วยให้การเงินของหลาย ๆ คนดีขึ้น มีเงินไว้ใช้ในยามฉุกเฉิน แต่การใช้จ่ายบัตรกดเงินสดนั้นเพื่อไม่ให้เป็นหนี้จนไม่รู้ตัวควรจ่ายหนี้บัตรให้ตรงเวลาและไม่ควรจ่ายขั้นต่ำ เพื่อไม่ให้ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นและกลายเป็นหนี้ไปไม่จบไม่สิ้น และควรตรวจสอบยอดรวมที่ต้องชำระ วันที่ครบกำหนดชำระเพื่อหลีกเลี่ยงค่าปรับ หรือค่าทวงถามหนี้