ประกันรถยนต์ชั้น 1 สำคัญอย่างไร ตอบปัญหาทุกข้อสงสัย ช่วย ไขข้อข้องใจแล้วที่นี่!
การทำประกันเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้ขับขี่รถยนต์ มีให้เลือกตั้งแต่ประกันรถยนต์ชั้น 1 จนถึงประกันรถยนต์ชั้น 3 การพิจารณาทำประกันรถยนต์ชั้น 1 นั้นขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นจำนวนในการใช้งานรถยนต์ หรือประสบการณ์ของผู้ขับขี่ ซึ่งส่วนมากประกันชั้น 1 จะเหมาะผู้ที่เพิ่งเริ่มต้นขับรถ ยังไม่มีประสบการณ์การขับรถมาก ผู้ที่เพิ่งออกรถใหม่ และผู้ที่ขับรถระยะไกล ต้องใช้งานรถยนต์บ่อย ๆ การมีประกันชั้น 1 ไว้ก็จะช่วยให้เจ้าของรถอุ่นใจได้มาก โดยประกันรถยนต์ชั้น1 คุ้มครองอะไรบ้างนั้น มาดูกัน
ความคุ้มครองของประกันรถยนต์ชั้น 1 เป็นอย่างไร
นอกจากการมอบความอุ่นใจในการขับขี่แล้ว การทำประกันรถยนต์ชั้น 1 ยังคุ้มครองอย่างอื่นนอกจากการเฉี่ยวชน ไม่ว่าจะเป็นการคุ้มครองตัวรถยนต์โดยตรง การคุ้มครองต่อผู้ขับขี่ของรถยนต์ที่เอาประกันภัย ความเสียหายที่เกิดแก่คู่กรณี รวมถึงการไม่มีคู่กรณีก็ตาม การคุ้มครองจากภัยธรรมชาติ หรือการคุ้มครองอื่น ๆ เช่น รถยนต์เกิดการสูญหาย ถูกทำลายจากการพยายามโจรกรรม ทั้งหมดนี้ก็รวมอยู่ในเงื่อนไขการคุ้มครองของการทำประกันรถยนต์ชั้น 1
เมื่อเกิดอุบัติเหตุ ผู้เอาประกันก็สามารถอุ่นใจได้ เพราะประกันชั้น 1 นั้นสามารถช่วยดูแลค่าเสียหาย ค่ารักษาพยาบาลต่างๆ ที่อาจถูกเรียกเก็บเกินจริงไปได้ อีกทั้งส่วนใหญ่แล้วประกันชั้น 1 จะมีการตกลงเป็นพันธมิตรกับอู่ซ่อมรถฝีมือดีหลากหลายแห่งสำหรับรองรับความสะดวกในการใช้บริการซ่อมแซมของผู้เอาประกัน ทำให้ไม่ต้องรอนานและเลือกเคลมได้ตามความสะดวก
โดยรายละเอียดการคุ้มครองของการทำประกันรถยนต์ชั้น 1 จะมีอะไรบ้าง วันนี้ทางเราได้รวบรวมมาให้แล้ว ซึ่งการคุ้มครองโดยทั่วไปของการทำประกันชั้น 1 ก็จะมีดังต่อไปนี้
ความคุ้มครองต่อตัวรถยนต์
ในกรณีเกิดการเฉี่ยวชนเล็กน้อยไปจนทำให้รถยนต์เสียหายหนัก เช่น ฝากระโปรงหลุด ประตูรถยนต์บุบ ประกันชั้น 1 ก็ทำการคุ้มครองทั้งรถยนต์ที่เอาประกันและรถยนต์ของคู่กรณีที่อาจเสียหายแบบเดียวกันได้
ความคุ้มครองต่อความเสียหายหรือเจออุบัติภัย ภัยธรรมชาติ
ในกรณีที่เกิดอุทกภัยหรือภัยจากน้ำท่วม อัคคีภัยหรือภัยจากไฟไหม้ วาตภัยหรือภัยจากพายุฝน หรือธรณีพิบัติภัยหรือภัยที่เกิดจากแผ่นดินไหว อุบัติภัยต่าง ๆ ที่ทำให้เกิดความเสียหายแก่รถยนต์ ประกันภัยชั้น 1 ก็คุ้มครองในกรณีนี้ด้วย
ความคุ้มครองชีวิตและทรัพย์สินของบุคคลภายนอก
ในกรณีเกิดการเฉี่ยวชนแล้วเกิดการบาดเจ็บทั้งผู้ขับขี่ของรถยนต์ที่ทำประกันชั้น 1 และคู่กรณี ไม่ว่าจะเป็นการบาดเจ็บแบบสูญเสียอวัยวะ ทุพพลภาพ(พิการ) ชั่วคราวหรือถาวร หรือเกิดการเสียชีวิต
แม้แต่กรณีที่ผู้ขับขี่รถยนต์ที่เอาประกันไม่มีคู่กรณี ไม่ว่าจะเป็นการที่ตัวรถยนต์ขูดกับกำแพงรั้วบ้าน การขับรถเกยฟุตบาท การพุ่งชนกับเสาไฟฟ้า เกิดอุบัติเหตุที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อทรัพย์สินของบุคคลภายนอก เช่น พุ่งชนเข้าร้านค้า ทำให้สินค้าในร้านเสียหาย ประกันชั้น 1 ก็ให้ความคุ้มครองต่อทั้งผู้ขับขี่รถยนต์ที่เอาประกัน และบุคคลภายนอกเจ้าของทรัพย์สิน
ความคุ้มครองตามเอกสารแนบท้าย
เอกสารแนบท้ายในประกันชั้น 1 หรือ ร.ย.01 คือการตีความความคุ้มครองตามที่กรมธรรม์ของบริษัทประกันภัยที่ผู้เอาประกันเลือก ทำการซื้อเพิ่มเติมหรือเป็นข้อตกลงกับทางบริษัทประกันภัย
ความคุ้มครองอื่นๆ
การคุ้มครองอื่น ๆ ของประกันชั้น 1 ไม่เพียงคุ้มครองแค่การซ่อมแซมรถยนต์ หรือจ่ายค่ารักษาพยาบาลเพื่อชดเชยแก่ผู้ขับขี่หรือคู่กรณีอย่างเดียว แต่ยังรวมการคุ้มครองการสูญหาย หรือการโจรกรรมที่อาจเกิดขึ้นอีกด้วย
ประกันรถยนต์ชั้น 1 ต้องระวัง ไม่ได้คุ้มครองทั้งหมดเสมอไป!
ใช่ว่าการซื้อประกันชั้น 1 จะครอบคลุมทุกอย่างเสมอไป เพราะทางบริษัทประกันภัยทุกที่ก็มีกฎพื้นฐานสำหรับผู้เอาประกันเช่นกัน เมื่อผู้เอาประกันละเมิดข้อห้ามในการขับขี่รถยนต์ เช่น เมาแล้วขับจนเกิดการเฉี่ยวชน ทางบริษัทประกันภัยก็สามารถที่จะไม่จ่ายค่าเสียหายได้แม้ว่าเราจะทำประกันรถยนต์ชั้น 1 ก็ตาม
ซึ่งเป็นเรื่องปกติสำหรับการทำประกันรถยนต์ ไม่ว่าจะเป็นการทำประกันชั้นไหนก็ตาม เพราะถือว่าเป็นกรณีที่เหนือการควบคุมในด้านกฎหมาย นอกจากนี้ยังทำเพื่อป้องกันการจัดฉากเพื่อรับสินไหมทดแทน การกระทำใด ๆ ที่กระทำขึ้นเพื่อเอาเปรียบบริษัทประกันภัย
สำหรับใครที่อยากทำประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 แต่ไม่แน่ใจข้อยกเว้นที่บริษัทประกันภัยไม่สามารถทำการคุ้มครองได้นั้น มีอะไรบ้าง บทความนี้ก็รวบรวมมาให้แล้วเช่นกัน
เมาแล้วขับ
แน่นอนว่าหากเป็นการละเมิดกฎหมายอย่างการเมาแล้วขับนั้น บริษัทประกันไม่สามารถรับผิดชอบอะไรได้ เพราะเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย และสามารถทำให้เกิดอันตรายแก่ผู้ขับขี่ ผู้ใช้รถใช้ถนนอื่น ๆ ได้ การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทำให้ผู้ดื่มมึนเมา ขาดสติ ไม่สามารถนำมาเป็นข้ออ้างได้
นอกจากนี้ก่อนจะทำการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ผู้ที่รับประทานเครื่องดื่มแอลกอฮอล์นั้นถือว่ามีสติรับรู้ครบถ้วน และรับรู้ถึงฤทธิ์ของเครื่องดื่มอยู่แล้ว จึงเป็นการกระทำโดยตั้งใจ และเมื่อเกิดอุบัติเหตุจึงไม่สามารถให้ประกันชั้น 1 คุ้มครองความเสียหายที่เกิดจากกรณีนี้ได้
การนำรถไปแข่งความเร็วที่ผิดกฎหมาย
เมื่อเป็นสิ่งที่ผู้เอาประกันกระทำโดยผิดกฎหมาย บริษัทประกันภัยย่อมไม่ทำการคุ้มครองอยู่แล้ว ในกรณีที่นำรถยนต์ที่มีประกันชั้น 1 คุ้มครองไปแข่งความเร็วที่ผิดกฎหมายเองก็เช่นกัน เพราะถือเป็นการกระทำที่ผู้ขับขี่รับทราบอยู่แล้วว่าจะก่อให้เกิดอันตรายทั้งต่อตัวรถยนต์ ทั้งตัวผู้ขับขี่ ทั้งคู่กรณี และทรัพย์สินของบุคคลภายนอก
การจัดฉากทำลายทรัพย์สินเพื่อหวังเคลมประกัน
ถึงแม้ว่าการประกันภัยจะเป็นการคุ้มครองวินาศภัย หรือการคุ้มครองที่เกิดจากความเสียหายของทรัพย์สินที่สามารถประเมินมูลค่าได้ แต่หากเป็นการกระทำโดยตั้งใจเพื่อรับสินไหมทดแทน แม้จะทำประกันชั้น 1 ก็ไม่สามารถรับเงินทดแทนได้เพราะถือว่าเป็นการตั้งใจทำลายทรัพย์สินเพื่อเอาเปรียบบริษัทประกันภัย
ผู้ขับไม่มีใบขับขี่หรือถูกเพิกถอนใบขับขี่
การขับขี่รถยนต์โดยไม่มีใบอนุญาตย่อมถือว่าผิดกฎหมาย เนื่องจากเป็นพาหนะที่ต้องใช้ความเชี่ยวชาญ ความระมัดระวังในการขับขี่ จึงต้องมีการทดสอบเพื่อรับใบอนุญาตก่อนทำการขับขี่รถยนต์ เพราะฉะนั้นผู้ที่ไม่มีใบขับขี่ ประกันชั้น 1 ก็ย่อมไม่ทำการคุ้มครองเนื่องจากขัดต่อบทกฎหมาย
การสลับตัวผู้ขับขี่เมื่อเกิดเหตุ
แม้ว่าประกันชั้น 1 ในปัจจุบันจะมีการคุ้มครองแบบที่ไม่ระบุชื่อผู้เอาประกัน แต่เมื่อเกิดอุบัติเหตุ ผู้ที่ขับขี่ก็ยังต้องเป็นคนรับผิดชอบต่อการกระทำของตัวเอง เช่น หากผู้ขับขี่ไม่มีใบอนุญาต แต่ผู้ที่โดยสารไปกับผู้ขับขี่มีใบอนุญาตการขับขี่ เมื่อเกิดอุบัติเหตุจึงทำการสลับตัวผู้ขับขี่ เพื่อให้เป็นไปตามการคุ้มครองของประกันชั้น 1
การกระทำแบบนี้ย่อมถือว่าผิดระเบียบข้อตกลงกับทางประกันภัย เพราะนอกจากจะผิดกฎหมายแล้ว ยังเข้าข่ายการจัดฉากเพื่อรับสินไหมทดแทนอีกต่างหาก
*การคุ้มครองของประกันชั้น 1 จะไม่มีการคุ้มครองค่าเสียหายแรก (Excess/Deductible) เว้นแต่ผู้เอาประกันจะทำการระบุไว้แต่แรก
เช็คก่อนทำ! ประกันรถยนต์ชั้น 1 เหมาะกับใครบ้าง
เมื่อทราบกฎระเบียบรวมถึงข้อห้ามต่าง ๆ แล้ว ตอนนี้หลาย ๆ คนคงคิดอยากจะทำประกันชั้น 1 เพราะดูแล้วการคุ้มครองเยอะ คุ้มค่าและครอบคลุมที่สุด แต่เดี๋ยวก่อน! นอกจากการคุ้มครองและข้อห้ามต่าง ๆ แล้ว ยังมีเช็คลิสต์ที่หลายคนควรตรวจสอบก่อนจะทำประกันภัยชั้น 1 เพื่อที่จะได้รู้ว่าเราเหมาะกับการทำประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 หรือไม่ ซึ่งจะมีอะไรบ้างนั้น อ่านตรงนี้ได้เลย
- มือใหม่หัดขับ เพราะมีความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุเล็ก ๆ น้อย ๆ ได้ เนื่องจากยังไม่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญมากพอ
- รถยนต์ที่เพิ่งออกใหม่ ข้อนี้คงถูกอกถูกใจคนรักรถ เมื่อถอยรถยนต์มาใหม่ หากเกิดอุบัติเหตุ ผู้ขับขี่ก็คงใจเสียไม่น้อย เพราะอยากให้รถยนต์คงสภาพที่ดีไว้ การมีประกันชั้น 1 คุ้มครองย่อมดีที่สุด
- รถยนต์ที่มีอายุการใช้งานไม่เกิน 7-10 ปี ขึ้นอยู่กับข้อกำหนดของบริษัทประกัน เพราะอายุการใช้งานรถนั้นไม่มากไม่น้อยเกินไป การคุ้มครองย่อมส่งผลดีต่อทั้งผู้ขับขี่และบริษัทประกันภัย
หากนอกเหนือจากนี้ เช่น รถที่ไม่ค่อยได้ใช้งาน หรือรถที่มีอายุเยอะ เราแนะนำให้คุณพิจารณาทำประกันรถยนต์ชั้นอื่น ๆ ดู อย่างเช่น ประกันรถยนต์ชั้น 2+ หรือประกันรถยนต์ชั้น 3+ เพื่อให้ได้ค่าเบี้ยที่ถูกลง แต่ความคุ้มครองใกล้เคียงประกันรถยนต์ชั้น 1
ประกันรถยนต์ชั้น 1 หากอยากทำจะต้องเตรียมเอกสารอะไรบ้าง
เมื่อเข้าใจข้อกำหนดต่าง ๆ ของประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 แล้วอยากจะทำประกันจะต้องเตรียมเอกสารหลัก ๆ อะไรบ้าง สามารถเตรียมรายการเอกสารตามนี้ได้เลย
- สำเนาทะเบียนรถ แน่นอนว่าหากจะทำประกันรถยนต์ก็ต้องมีเอกสารเกี่ยวกับรถยนต์เป็นอย่างแรก
- สำเนาบัตรประชาชน เพื่อใช้ระบุตัวตนของผู้เอาประกัน หรือสำเนาหนังสือเดินทางต่างประเทศในกรณีผู้เอาประกันเป็นชาวต่างชาติ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับบริษัทประกันภัยว่าต้องการใช้หรือไม่
- ใบอนุญาตการขับขี่เช่นเดียวกันกับสำเนาทะเบียนรถ หากไม่มีใบขับขี่ก็ไม่สามารถทำประกันชั้น 1 ได้ เพราะถือว่าผิดกฎหมายการขับขี่ยานพาหนะ
ประกันรถยนต์ชั้น 1 ทำแล้วต้องเคลมที่ไหน มีวิธีการอย่างไรบ้าง แล้วหากเกิดเหตุฉุกเฉินจะต้องทำอย่างไร
โดยส่วนมากทางบริษัทประกันจะแจ้งกับผู้เอาประกันอยู่แล้วว่าหากเกิดอุบัติเหตุ จะต้องทำอย่างไรบ้าง แต่ในบางครั้งผู้ขับขี่อาจขวัญเสียจนลืมสิ่งที่บริษัทประกันได้แจ้งไว้ หากเกิดอุบัติเหตุก็สามารถทำตามนี้ได้เลย โดยจะแบ่งเป็น 2 กรณีคือการเคลมแบบมีคู่กรณีและการเคลมแบบไม่มีคู่กรณี
กรณีเกิดอุบัติเหตุทั้งแบบมีคู่กรณีและไม่มีคู่กรณี
เคลมแบบมีคู่กรณี (เคลมสด)
- โทรหาบริษัทประกันหรือตัวแทนประกันภัยทันทีที่เกิดอุบัติเหตุ เพื่อประเมินความเสียหาย
- ให้ข้อมูลกับตัวแทนและรอการประเมินความเสียหายที่เกิดกับรถยนต์
- รับใบเคลมจากตัวแทนประกัน ซึ่งใบเคลมจะมีอายุการใช้งานเพียง 1 ปี ผู้เอาประกันหรือคู่กรณีสามารถนำใบเคลมไปใช้ภายในระยะเวลาที่กำหนดตามความสะดวกของตนได้
- นัดหมายกับทางศูนย์บริการหรืออู่ซ่อมรถยนต์ในเครือประกันเพื่อทำการซ่อมแซมส่วนที่เสียหายต่อไป
เคลมแบบไม่มีคู่กรณี (เคลมสด)
ในบางครั้งก็อาจมีการชนแล้วหนี โดยที่ผู้ขับขี่ไม่สามารถระบุตัวคู่กรณีได้ ก็สามารถทำตามการเคลมสดแบบมีคู่กรณีได้เลย
เคลมแบบไม่มีคู่กรณี (เคลมแห้ง)
ในบางครั้งอาจมีการเฉี่ยวชนเล็กน้อย อุบัติเหตุที่ไม่ส่งผลต่อการเดินทาง สิ่งที่ผู้เอาประกันต้องทำเมื่อต้องการจะเคลมก็คือ
- โทรหาบริษัทประกันภัย
- ระบุเหตุการณ์โดยละเอียดว่าเกิดเหตุการณ์อย่างไร วันที่และเวลาที่เกิดเหตุ สถานที่เกิดเหตุ มีคู่กรณีหรือไม่มีคู่กรณี
- ผู้ขับขี่จะต้องเตรียมรูปถ่ายความเสียหายของบริเวณที่ต้องการเคลม รูปถ่ายรถยนต์ด้านหน้าที่เห็นป้ายทะเบียนชัดเจน รูปถ่ายใบขับขี่ของผู้เอาประกัน เมื่อรวบรวมหลักฐานแล้วจึงค่อยส่งให้บริษัทประกันภัยตามขั้นตอนของแต่ละบริษัทต่อไป
- รับใบเคลมแล้วจึงนัดหมายกับศูนย์บริการหรืออู่ซ่อมรถ
กรณีเกิดเหตุฉุกเฉินเกี่ยวกับรถยนต์
เมื่อเกิดอุบัติเหตุ ผู้ขับขี่ควรปฏิบัติดังนี้
- ตั้งสติ ดับเครื่องยนต์และเปิดไฟฉุกเฉิน
- โทรหาศูนย์บริการช่วยเหลือของบริษัทประกันที่เอาประกันอยู่หรือเบอร์โทรฉุกเฉินสำหรับผู้ใช้รถ
- 1186 สายด่วนประกันภัย
- 1192 สายด่วนเกี่ยวกับการโจรกรรมรถยนต์
- 1197 ศูนย์ควบคุมจราจร
- 02-711-9160 สายด่วนรถหาย
- 02-711-9161 (หรือ62) สายด่วนอุบัติเหตุ
- 199 แจ้งเหตุดับเพลิง
- หากในรถมีการติดตั้งกล้องรถยนต์ให้เตรียมหลักฐานรอเจ้าหน้าที่ (อาจจะขึ้นอยู่กับกรณี)
บริการเปรียบเทียบเบี้ยประกันรถยนต์ชั้น 1 กับ Silkspan
หากเข้าใจและได้รับข้อมูลเกี่ยวกับประกันชั้น 1 เพียงพอแล้ว แต่ไม่แน่ใจว่าควรทำประกันชั้น 1 กับบริษัทไหนดี แล้วราคาประกันชั้น 1 นั้นราคาประมาณไหน วันนี้เรามีตัวช่วยพิเศษที่รอบรู้เรื่องประกันออนไลน์อย่าง Silkspan ที่จะช่วยให้การตัดสินในการทำประกันรถยนต์ชั้น 1 ของคุณง่ายขึ้น
แล้วทำไมต้องทำประกันกับ Silkspan ล่ะ? มาเช็คข้อดีไปพร้อม ๆ กันเลย
- มีบริการเปรียบเทียบเช็คเบี้ยประกันรถยนต์ชั้น 1 เพื่อหาข้อเสนอที่ดีที่สุด และน่าพอใจที่สุดสำหรับผู้ซื้อประกัน
- ช่วยประหยัดกว่า เพราะ Silkspan จะแนะนำประกันภัยที่เหมาะสมกับผู้ใช้งานเท่านั้น พร้อมทั้งยังมีโปรโมชั่นมากมายเพื่อตอบสนองความต้องการและไลฟ์สไตล์ของผู้เอาประกัน
- มีทางเลือกช่องทางการชำระให้ผู้ซื้อมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการจ่ายสดเต็มจำนวน ผ่อนเบี้ยประกัน 0% นาน 10 เดือน ได้ทั้งผ่านธนาคารแบบไม่ต้องใช้บัตรเครดิตหรือจะใช้บัตรเครดิตก็สามารถใช้ได้ทุกธนาคาร
- มีบริการเสริมพิเศษ หากซื้อประกันกับ Silkspan ผู้เอาประกันสามารถรับสิทธิพิเศษ อย่างการบริการให้ใช้รถฟรี ระหว่างที่รถของผู้เอาประกันนั้นซ่อมอยู่ หรือจะเป็นการเบิกค่าเดินทาง 1,000 บาท ระหว่างที่รถยนต์เข้ารับการซ่อม และสุดท้ายบริการช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชม. จาก Inter Partner Assistance (IPA) แบบฟรี ๆ
“สบายใจได้ ไม่ต้องเป็นห่วงอีกต่อไปว่าจะลืมต่อประกัน” SILKSPAN ขอแนะนำบริการแจ้งเตือนต่อประกันรถยนต์ผ่าน LINE ไม่มีสายโทรกวนใจ ไม่มีค่าใช้จ่าย สมัครเลยที่นี่ https://www.silkspan.com/online/insurance-alert