โบท็อกกราม ตัวช่วยการมีใบหน้าเรียวสวย

โบท็อกกราม ตัวช่วยการมีใบหน้าเรียวสวย

โบท็อกกราม ตัวช่วยการมีใบหน้าเรียวสวย

ปัจจุบัน “โบท็อกกราม” ค่อนข้างเป็นที่นิยมกันมากโดยเฉพาะกับคนหน้าเหลี่ยม หน้าบาน หน้ากลม แก้มเยอะ กรามใหญ่เพราะสามารถช่วยปรับให้รูปหน้าเรียวยิ่งขึ้น สวยงาม แลดูเล็กสมส่วนตามแบบฉบับพิมพ์นิยมของหญิงสาวในสมัยนี้ และที่สำคัญไม่ต้องเสียเวลาในการพักฟื้น ไม่ต้องยุ่งยากกับการผ่าตัดที่ทำให้เกิดแผลเป็นได้ 

ผลพลอยได้จากการฉีดโบลดกรามนอกเหนือจากความสวยงามแล้ว ก็คือมีความรู้สึกมั่นใจในภาพลักษณ์ตัวเองเพิ่มขึ้นที่จะพูดคุยติดต่อกับคนอื่น ๆ ในสังคม บวกกับความสามารถส่วนตัวที่เพียบพร้อมอีกด้วย ดังนั้นการหาข้อมูลเกี่ยวกับ botox กรามก็จะเป็นการันตีว่าจะผลลัพธ์ที่ได้นั้นคุ้มค่ากับเงินที่ต้องเสียไป99


ทำความรู้จักกับ โบท็อกกราม 

ทำความรู้จักกับ โบท็อกกราม

การทำโบท็อกกราม ก็คือการฉีดโบลดกราม เพื่อทำให้กล้ามเนื้อสันกรามใหญ่ดูเล็กลง ด้วยการใช้วิธีฉีดสาร “โบทูลินัม ท็อกซินเอ (Botulinum Toxin A)” ที่ชั้นกล้ามเนื้อบดเคี้ยว (Chew Muscles) ตรงบริเวณกราม เพื่อให้กล้ามเนื้อทำงานน้อยลงจนกระทั่งมีขนาดเล็กลง ทำให้ใบหน้าเรียวขึ้น

โบท็อก หรือ โบทูลินัม ท็อกซิน (Botulinum Toxin) เป็นสารโปรตีนสกัดจากแบคทีเรีย “คลอสทริเดียม (Clostridium botulinum) เป็นสารที่มีฤทธิ์ต่อระบบประสาท (Neurotoxin) สามารถทำให้กล้ามเนื้อฝ่อตัว หดเล็กลง หยุดการทำงานชั่วคราว จนทำให้ใบหน้าเรียวกระชับขึ้นอย่างชัดเจนโดยไม่ต้องทำผ่าตัดศัลยกรรม

Botox กรามที่นิยมใช้กันในปัจจุบันและได้รับการรับรองจากอย.ไทย มีจากหลายประเทศ เริ่มจากหลักพันต่อ 100 ยูนิต เช่นประเทศเกาหลี ยี่ห้อ Botulax / Aestox / Nobota, หลักหมื่นต่อ 100 ยูนิต เช่น ประเทศสหรัฐอเมริกา ยี่ห้อ Allergen, ประเทศอังกฤษ ยี่ห้อ Dysport และ ประเทศเยอรมัน ยี่ห้อ Xeomin เป็นต้น


ฉีดโบท็อกกรามดีอย่างไรบ้าง?

ฉีดโบท็อกกรามดีอย่างไรบ้าง

หนึ่งในหัตถการที่พวกแพทย์แนะนำให้ใช้ในการปรับรูปหน้าที่มีสาเหตุมาจากกล้ามเนื้อคือ ฉีดโบลดกราม ซึ่งจะช่วยให้คนที่มีปัญหาเกี่ยวกับรูปหน้าไม่ได้รูปอย่างที่ต้องการ สามารถปรับแก้ไขได้โดยไม่ต้องเสี่ยงใช้วิธีผ่าตัด แต่จะเป็นการฉีดโบท็อกหน้าเรียวแทน ข้อดีของการทำโบท็อกกรามคือ

  • ลดการทำงานของกล้ามเนื้อตรงสันกรามใหญ่ เพื่อให้กล้ามเนื้อเล็กลง ทำให้ใบหน้าเรียวขึ้น
  • ไม่มีแผลเป็น และไม่เจ็บตัวหรือเจ็บน้อยมาก
  • ไม่ต้องการเวลาพักฟื้น สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ
  • เห็นผลลัพธ์เร็ว หน้าดูเรียวขึ้นภายใน 2 สัปดาห์
  • ช่วยลดริ้วรอยเล็ก ๆ รอยตีนกา ปัญหาคิ้วตก ปรับลิฟกรอบหน้าให้ชัดขึ้น มีมิติมากขึ้น
  • โบท็อกลดกรามราคาจะถูกกว่าวิธีอื่น ๆ เช่น การผ่าตัด การฉีดฟีลเลอร์เพิ่มมิติให้ใบหน้า ฯลฯ6

ใครบ้างควรฉีดโบท็อกลดกราม ?

โบท็อกลดกราม เหมาะที่จะใช้กับคนต่อไปนี้

  • คนที่มีปัญหาหน้าบาน จากการมีกล้ามเนื้อกรามใหญ่ แต่ต้องการที่จะมีใบหน้าหน้าเรียวขึ้น
  • คนที่มีปัญหาหน้ากลม แก้มเยอะ ไม่มีกรอบหน้า
  • คนที่มีปัญหาหน้าเหลี่ยม ใหญ่ กรามชัดเกินไป มีริ้วรอยมาก
  • คนที่ไม่ต้องการผ่าตัด ไม่มีเวลาพักฟื้น และไม่อยากมีแผลเป็น
  • คนที่ต้องการเห็นผลลัพธ์ของการลดขนาดกรามในช่วงเวลาสั้น ๆ
  • คนที่ต้องการลดขนาดกรามชั่วคราว
  • คนที่มีงบประมาณในการทำโบท็อกกรามจำกัด ไม่สูงนัก
ใครบ้างควรฉีดโบท็อกลดกราม

ก่อนฉีดโบท็อกกราม ควรรู้อะไรบ้าง ?

ก่อนฉีดโบท็อกกราม ควรรู้อะไรบ้าง

ถึงแม้ว่าการฉีดโบท็อกกรามจะไม่มีอันตราย แต่ก่อนที่จะตัดสินใจทำก็ควรต้องรู้เรื่องต่อไปนี้และเตรียมตัวล่วงหน้า คือ

  • ศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับการฉีดโบท็อกลดกราม ฉีดโบท็อกหน้าเรียว ถึงข้อดี ข้อเสีย ราคา ฯลฯ
  • การโบท็อกกรามเป็นการลดขนาดกรามระดับชั้นกล้ามเนื้อ ไม่เกี่ยวกับชั้นไขมัน หรือกระดูกกรามที่ใบหน้า
  • ควรงดการใช้ยาแก้ปวดกลุ่ม NSAIDS ประเภท Naproxen และ Ibuprofen เพื่อที่จะได้ลดอาการบวมช้ำที่อาจเกิดขึ้นหลังจากฉีดโบท็อกลดกราม
  • ควรฉีดโบลดกรามที่ไหนดี – ควรเป็นคลีนิกที่มีมาตรฐาน ที่พร้อมด้วยแพทย์มากประสบการณ์ มีรีวิวฉีดโบลดกรามที่น่าเชื่อถือและเป็นกลางเพื่อช่วยในการตัดสินใจ
  • โบท็อกแท้มียี่ห้ออะไรบ้าง ต้องใช้โบท็อกกรามกี่ยูนิต โบท็อกลดกรามราคาเท่าไร เป็นต้น
  • ก่อนฉีดทุกครั้ง ให้ตรวจเช็กก่อนว่าเป็นโบท็อกแท้ก่อนที่จะให้แพทย์ผสมน้ำเกลือก่อนใช้
  • ที่สำคัญควรงดสูบบุหรี่ งดดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการอักเสบขึ้นได้ พร้อมทั้งพักผ่อนให้เพียงพอ

ฉีดโบท็อกลดกรามอันตรายไหม ?

ฉีดโบท็อกลดกรามอันตรายไหม

ฉีดโบลดกรามจะไม่เป็นอันตรายเลย ตราบใดที่กระทำอย่างระมัดระวังดังนี้ อีกทั้งตัวยาโบท็อกยังได้รับการรับรองคุณภาพจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาทั้งจากไทยและทั่วโลก ว่าปลอดภัยสามารถใช้เพื่อการศัลยกกรรมความงามได้อย่างแท้จริง

  • ควรใช้โบท็อกแท้ 100 เปอร์เซ็นต์ที่สามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ โดยไม่มีสารตกค้าง
  • ฉีดโบท็อกลดกรามในคลินิกที่ได้มาตรฐาน และต้องฉีดกับแพทย์ที่เชี่ยวชาญ มีประสบการณ์เท่านั้นอาจมีผลข้างเคียง เช่น บวมช้ำ หน้าตึง แต่ก็จะค่อย ๆ หายไปเอง*

หลังฉีดโบท็อกกรามดูแลตัวเองอย่างไรดี

หลังฉีดโบลดกราม ควรที่จะต้องดูแลตัวเองตามคำแนะนำของแพทย์ดังนี้

  • ให้บริหารกล้ามเนื้อเป็นเวลา 30 นาทีเพื่อให้เซลล์ประสาทดูดสารโบท็อกได้มากที่สุด  วิธีบริหารที่แนะนำคือ เคี้ยวหมากฝรั่ง หรือกัดฟันไว้
  • ไม่ควรนอนราบอย่างน้อย 3-4 ชั่วโมง เพราะจะทำให้สารโบท็อกไหลไปบริเวณที่ไม่ต้องการได้
  • เลี่ยงกิจกรรมที่ทำให้เกิดความร้อนทุกชนิดเป็นเวลา 3 วัน เช่น ซาวน่า การออกกำลังกายอย่างหนัก เป็นต้น
  • งดสูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ และทำเลเซอร์ร้อนทุกชนิดภายใน 2 อาทิตย์หลังฉีด
  • งดกด นวด บีบบริเวณที่ฉีดโบท็อกกราม
  • งดอาหารหมักดอง และอาหารรสเผ็ดร้อน เช่น หมูกระทะ ปิ้งย่าง ชาบู
  • ไม่เคี้ยวอาหารเหนียว ๆ หรือ แข็ง ๆ เพราะจะทำให้กรามดีดกลับได้
  • งดทายาในกลุ่มที่มีกรดวิตามินเอหรือวิตามินซีในช่วง 24 ชั่วโมงแรกหลังฉีด
  • แนะให้กินอาหารที่มีธาตุ Zinc 50 mg เพื่อให้โบท็อกออกฤทธิ์เร็วขึ้น

ฉีดโบท็อกกรามที่ไหนดี ?

ฉีดโบท็อกกรามที่ไหนดี

เมื่อได้ตัดสินใจที่จะทำโบท็อกกรามก็ควรดูจากหลาย ๆ ปัจจัยก่อนที่จะตัดสินใจเลือกใช้บริการคลินิกซักที่ เช่น

  • คลินิกที่เลือกต้องเปิดอย่างถูกต้องตามกฎหมาย มีเครื่องมือทันสมัยครบครัน
  • แพทย์ที่ให้บริการต้องมีใบอนุญาตจากสมาคมแพทย์ มีใบรับรองเฉพาะทาง มีประสบการณ์เกี่ยวกับการฉีดโบท็อก
  • สามารถตรวจสอบโบท็อกที่ใช้ว่าเป็นของแท้ 100 เปอร์เซ็นต์ ทั้งแพทย์จะเป็นผู้ผสมน้ำเกลือให้เห็นชัด ๆ ตรงหน้าก่อนฉีดหน้า
  • แพทย์ที่ทำต้องมีการติดตามผลหลังฉีดกราม พร้อมให้คำแนะนำในการดูแลตนเองหลัง botox กราม
  • คลินิกที่เลือกใช้บริการ ควรมีรีวิวจากผู้ใช้จริงที่น่าเชื่อถือ และน่าพึงพอใจ*

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับโบท็อกกราม

ส่วนใหญ่คนที่ตัดสินใจจะทำโบท็อกกรามจะมีปัญหาหลาย ๆ อย่างที่ค้างคาใจ และปัญหาโดยมากจะเป็นปัญหาเหล่านี้

1. Botox ลดกราม เจ็บไหม? กี่วันเห็นผล?

โบท็อกลดกรามเจ็บไหม ขึ้นอยู่กับแต่ละคน บ้างก็ว่าไม่ บ้างก็ว่าเจ็บนิดเดียว อย่างไรก็ดีการฉีดโบท็อกกรามไม่จำเป็นต้องใช้ยาชา แต่ถ้ากลับเจ็บมาก ๆ แพทย์อาจช่วยทายาชาเพื่อให้ออกฤทธิ์ก่อนฉีดโบท็อกกราม 30 นาที แล้วค่อยประคบเย็นหลังฉีดหน้าเรียบร้อยแล้ว

เนื่องจากการฉีดโบท็อกกรามไม่ต้องเสียเวลาพักฟื้น แต่เห็นผลลัพธ์ไว ประมาณ 2 อาทิตย์กล้ามเนื้อกรามจะนิ่มลง เริ่มยุบตัวลงภายใน 1 เดือน และจะเห็นผลเต็มที่ภายใน 2-3 เดือน

2. ฉีดโบท็อกลดกรามอยู่ได้นานไหม ?

คำถามที่ว่าโบท็อกกรามอยู่ได้กี่เดือนนั้น ก็ขึ้นกับว่าเป็นโบท็อกจากประเทศไหน ยี่ห้ออะไรที่เลือกใช้ แต่ปกติแล้วโบท็อกลดกรามจะอยู่ได้นาน 5-6 เดือน ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับดูแลตัวเองหลังฉีดโบท็อกกรามด้วยเช่นกัน

3. โดยทั่วไปแล้วโบท็อกกรามกี่ยูนิต?

จำนวนโบท็อกกรามกี่ยูนิตนั้น แพทย์ที่มีประสบการณ์จะเป็นคนวิเคราะห์รูปหน้าว่าควรใช้ปริมาณเท่าไร แต่โดยทั่วไปแล้วจะใช้ประมาณ 1 ขวดที่มี 100 ยูนิต อาจจะมากกว่าหรือน้อยกว่าทั้งนี้ขึ้นกับใบหน้าของแต่ละคน

4. ฉีดโบท็อกแล้วหน้าตึง ทำอย่างไรดี?

ฉีดโบท็อกกรามแล้วหน้าตึงอาจเกิดจากสาเหตุการใช้จำนวนยูนิตของยาโบท็อกที่มากเกินไป ดังนั้นควรรีบกลับไปพบแพทย์โดยด่วน

แต่ถ้าหากรู้สึกเมื่อย ตึงบริเวณกรามในช่วงสัปดาห์แรกอาจเป็นผลจากตัวยาออกฤทธิ์ ก็ไม่ควรกังวลเพราะจะหายไปเองเมื่อเวลาผ่านไป


โบท็อกกรามราคาพิเศษกับรมย์รวินท์คลินิก

โบท็อกกรามราคาพิเศษกับรมย์รวินท์คลินิก

ขอบคุณรูปภาพจาก https://www.facebook.com/RomrawinClinic/

คนที่ต้องการใบหน้าเรียวสวย เราขอแนะนำรมย์รวินท์คลีนิกที่มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญมากประสบการณ์ที่พร้อมให้คำปรึกษาและคำแนะนำในการรักษาแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด ว่าสมควรใช้วิธีฉีดโบท็อกกรามหรือไม่  เทคนิคที่ใช้ยังเป็นเทคนิคเฉพาะที่คิดค้นโดยรมย์รวินท์คลีนิกเท่านั้น พร้อมโบท็อกของแท้ 100 เปอร์เซ็นต์ตรวจสอบจากอย.ได้

รมย์รวินท์คลีนิกเป็นคลินิกหัตถการความงามแบบครบวงจร เพียงมาที่เดียวก็จบทุกปัญหาความงาม หากสนใจสามารถติดต่อได้ที่ไลน์ : @Romrawinclinic หรือโทร 080-153-9000

Similar Posts