10 อันดับ ครีมบำรุงผิวหน้ายี่ห้อไหนดีที่ใช้แล้วปัง

การมีสุขภาพผิวหน้าที่ดี แค่การทำความสะอาดผิวหน้าอย่างเดียวก็คงจะไม่พอ เนื่องด้วยมลภาวะ สภาพอากาศ และยังขึ้นอยู่กับสภาพผิวเดิมของแต่ละคนว่าสามารถทนกัยสภาพแวดล้อมได้แค่ไหนอีกด้วยค่ะ ดังนั้นเราอาจต้องมีช่วยปกป้องและบำรุงผิวอย่างครีมทางหน้า ในท้องตลาดจะเห็นว่ามีผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าวางจำหน่ายหลายยี่ห้อ หลายสูตร โดยวัตถุประสงค์ของครีมทางหน้าแต่ละตัวก็แตกต่างกันอย่างเช่น ครีมบํารุงผิวหน้า ผิวแพ้ง่าย ครีมทาหน้าขาว ครีมบํารุงผิวหน้า ลดรอยสิว ครีมทาหน้าชุ่มชื้น ครีมฟื้นฟูผิวหน้า เป็นต้น แล้วด้วยตัวเลือกที่เยอะขนาดนี้เราควรจะใช้ครีมบำรุงผิวหน้ายี่ห้อไหนดีล่ะ? ในบทความนี้จะมาแนะนำ 10 อันดับ ครีมบำรุงผิวหน้ายี่ห้อไหนดีที่ใช้แล้วปังหน้าไม่พังกันค่ะ

ครีมบำรุงผิวหน้า สำคัญอย่างไร

ครีมบำรุงผิวหน้า หรือครีมทาหน้าคือผลิตภัณฑ์ที่ช่วยบำรุงผิวหน้าจากปัญหาผิวต่าง ๆ ให้กลับมาสุขภาพดีขึ้น หรือช่วยป้องกันก่อนที่ผิวหน้าของเราจะเกิดปัญหาค่ะ หากถามว่าแล้วครีมบำรุงผิวหน้าหรือครีมทาหน้าเนี่ยมีความสำคัญอย่างไร ก็อย่างที่ได้กล่าวไปเลยค่ะ เนื่องจากผิวหน้าเราต้องสัมผัสกับสภาพอากาศแบบต่าง ๆ มลภาวะและสิ่งสกปรกในแต่ละวัน ซึ่งเจ้าพวกนี้จะไปทำให้ผิวเกิดปัญหาได้ ไม่ว่าจะผิวแห้งกร้าน ผิวมันเป็นสิว ผิวหมองคล้ำ ผิวเหี่ยวย่นมีริ้วรอยดูแก่ก่อนวัย และปัญหาอื่น ๆ ตามมาค่ะ หากเราปล่อยให้ผิวต้องเสื่อมลงไปในแต่ละวันโดยไม่มีตัวช่วยฟื้นฟูผิวเลยก็จะยิ่งทำให้ปัญหาที่กล่าวไปนั้นร้ายแรงขึ้นค่ะ ดังนั้นเราจึงควรใช้ผลิตภัณฑ์บํารุงผิวหน้ามาเป็นตัวช่วยให้ผิวเราดูสุขภาพดี สดใส ไม่แห้งกร้านหมองคล้ำ หรือเกิดปัญหาผิวอื่น ๆ ค่ะ

ครีมบำรุงผิวหน้า กลางวัน – กลางคืน ต่างกันอย่างไร

ครีมบำรุงผิวหน้าสำหรับกลางวัน (Day Cream)

ส่วนผสมครีมทาหน้าสำหรับกลางวันมักจะมีสารกันแดดเพื่อปกป้องผิวเราจากรังสี UVA UVB ในแสงแดดในช่วงกลางวันค่ะ รวมถึงสารที่ช่วยปกป้องผิวจากมลภาวะและอนุมูลอิสระ นอกจากนี้ในครีมกลางวันบางตัวยังช่วยในเรื่องความชุ่มชื้น ลดความแห้งกร้านของผิวได้ ดังนั้นครีมบำรุงผิวหน้าสำหรับกลางวันจึงเน้นถึงเรื่องการปกป้องผิวจากแสงแดดและมลภาวะจากสภาพอาการและสิ่งสกปรกนั่นเอง เนื้อสัมผัสของครีมทาหน้าจะมีความบางเบา สามารถซึมซาบเข้าสู่ผิวได้ง่าย ไม่อุดตันรูขุมขน นอกจากนี้เมื่อทาครีมบำรุงผิวหน้าก่อนจะแต่งหน้ายังช่วยให้เครื่องสำอางติดทนได้นาน ไม่ดรอปได้ง่ายระหว่างวันค่ะ 

ครีมบำรุงผิวหน้าสำหรับกลางคืน (Night Cream)

ครีมทากลางคืนมักจะเน้นถึงเรื่องบำรุงและฟื้นฟูผิวหน้า ลดเลือนริ้วรอย เพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิวหน้าค่ะ ดังนั้นส่วนผสมครีมทาหน้าสำหรับกลางคืนมักจะมีสารสำคัญที่ค่อนข้างเข้มข้น ทำให้เนื้อสัมผัสของครีมทากลางคืนจะค่อนข้างหนัก การซึมซาบเข้าสู่ผิวอาจใช้เวลาที่นานกว่าครีมกลางวันค่ะ

การเลือกครีมบำรุงผิวหน้าให้เหมาะกับสภาพผิว

อยากจะใช้ครีมบำรุงผิวหน้าแต่คิดไม่ออกว่าจะใช้ครีมบำรุงผิวหน้ายี่ห้อไหนดี เราสามารถเลือกครีมบำรุงผิวหน้าให้เหมาะกับสภาพผิวเราได้โดยนำหัวข้อต่อไปนี้าประกอบพิจารณาเลือกครีมบำรุงผิวหน้ากันค่ะ

1. ต้องรู้ถึงสภาพผิวเดิมของตนเองก่อน

เพราะในตลาดจะมีวางขายครีมทาหน้าหลากหลายสูตร มีทั้งสำหรับผิวแห้ง ผิวมัน ผิวแพ้ง่าย  สมมติหากเราไม่ทราบว่าเป็นคนผิวแห้ง แต่ไปใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าสำหรับคนผิวมันนั่นก็อาจไม่ตอบโจทย์ปัญหาผิวของตนเอง หนำซ้ำอาจทำให้ผิวแห้งขึ้นไปอีกค่ะ ดังนั้นเราควรรู้ถึงสภาพผิวตนเองก่อนเพื่อจะได้รู้ว่าควรใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าประเภทไหน เพื่อให้การบำรุงผิวหน้ามีประสิทธิภาพสูงสุดนั่นเอง

2. ต้องรู้ถึงปัญหาผิวของตนเองก่อน

เพราะครีมทาหน้าแต่ละสูตรก็ยังสามารถแก้ปัญหาผิวได้แตกต่างกัน ดังนั้นหากทราบว่าตนเองมีปัญหาผิวจุดไหนก็จะทำให้เลือกผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าได้ง่ายขึ้นค่ะ อย่างเช่นหากมีปัญหาเรื่องริ้วรอยก็อาจใช้ครีมทาหน้าที่มีส่วนผสมช่วยลดเลือนริ้วรอย หรือปัญหาสิวก็เลือกครีมทาหน้าที่สามารถยับยั้งการเกิดสิว เป็นต้น

3. ครีมบำรุงผิวหน้าจะต้องมีความปลอดภัย

ก่อนจะซื้อครีมทาหน้าเราควรจะดูถึงความหน้าเชื่อถือทั้งยี่ห้อและแหล่งจำหน่าย บางคนอาจซื้อเพราะแพคเกจดูน่าใช้ หรืออาจเพราะราคาถูกกว่าปกติมาก แต่ครีมบำรุงหน้าที่ไม่ปลอยภัย แหล่งซื้อขายไม่น่าเชื่อถือ นั่นอาจหมายความว่าครีมทาหน้านั้นไม่มีคุณภาพ แถมยังเป็นอันตรายต่อผิวหน้าเราด้วยค่ะ อย่างเช่นผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้ามีส่วนประกอบของสารปรอท สารตะกั่ว หรือกลุ่มโลหะหนักอื่นๆ สารสเตียรอยด์ ซึ่งมีความอันตรายเป็นอย่างมาก จากทาครีมทาหน้าเพื่อปกป้องผิวอาจกลายเป็นทาแล้วหน้าพังกว่าเดิมก็ได้ค่ะ

4. พิจารณาถึงส่วนผสมครีมทาหน้าก่อนเลือกใช้

สำหรับผู้ที่ผิวบอบบาง แพ้ง่ายอาจต้องพิจารณาถึงส่วนผสมครีมทาหน้าอย่างเคร่งครัดก่อน เพราะครีมทาหน้าบางตัวก็มีสารที่ก่ออาการแพ้อย่างเช่น น้ำหอม สีสังเคราะห์ สารกันเสียกลุ่มพาราเบน แอลกอฮอล์ ซิลิโคน เป็นต้น

จากหัวข้อเหล่านี้อาจช่วยให้ผู้ที่จะใช้ครีมบำรุงผิวหน้ายี่ห้อไหนดีสามารถตัดตัวเลือกที่มากมายในตลาดจนเหลือครีมทาหน้าที่เหมาะสมกับตัวเราได้ค่ะ

10 อันดับ ครีมบำรุงผิวหน้ายี่ห้อไหนดี ฉบับปี 2022

เมื่อพิจารณาและทราบแล้วว่าครีมบำรุงผิวหน้าประเภทไหนที่เราควรใช้ แต่ถึวอย่างนั้นก็ยังมีหลากหลายยี่ห้อครีมทาหน้าให้เลือกอยู่ดี แล้วตกลงจะใช้ครีมบำรุงผิวหน้ายี่ห้อไหนดีกันล่ะ เราได้รวบรวม 10 อันดับครีมบำรุงผิวหน้ายี่ห้อไหนดี ที่ใช้แล้วปังกันค่ะ

อันดับที่ 1 ครีมบำรุงผิวหน้า Bioderma 

ครีมบำรุงผิวหน้ายี่ห้อไหนดียี่ห้อแรกที่อยากแนะนำเลยคือครีมบำรุงผิวหน้า Bioderma นั่นเองค่ะ ด้วยความเป็นแบรนด์เวชสำอางชื่อดัง พร้อมกับจุดมุ่งหมายของแบรนด์คือการให้ความสำคัญต่อความสมดุลตามธรรมชาติของผิว ทำให้แบรนด์ Bioderma พัฒนาผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่ปลอดภัย และไม่ทำร้ายผิว ดังนั้นจึงมั่นใจได้ว่าผลิตภัณฑ์ครีมบำรุงผิวหน้า Bioderma มีความปลอดภัยและสามารถให้ผลลัพธ์ที่ดีแก่ผิวหน้าเราได้ค่ะ

ครีมบำรุงผิวหน้าที่อยู่ภายใต้แบรนด์ Bioderma มีมากมายให้เลือกขึ้นกับสภาพผิวของแต่ละคนค่ะ แต่จะขอยกตัวเด่น ๆ มากล่าวนะคะ

• BIODERMA SENSIBIO LIGHT

ครีมบำรุงผิวหน้าที่ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น ด้วยสารสกัดจากสาหร่ายสีน้ำตาล และ enoxolone ช่วยปลอบประโลมผิวที่ไวต่อการระคายเคือง เหมาะกับผู้ที่มีผิวบอบบางแพ้ง่าย

ขนาดบรรจุภัณฑ์ 40 ml ราคา 940 บาทค่ะ

• BIODERMA SENSIBIO DEFENSIVE

ครีมฟื้นฟูผิวหน้าให้แข็งแรงขึ้นจากภายใน ด้วยเทคโนโลยีดีเฟนซีฟ ช่วยปกป้องผิวจากมลภาวะและสิ่งสกปรกจากภายนอก และยังช่วยให้ผิวชุ่มชื้น ตัวครีมทาหน้าซึมได้ง่ายไม่อุดตัน เหมาะกับผู้ที่มีผิวบอบบางแพ้ง่าย

ขนาดบรรจุภัณฑ์ 40 ml ราคา 940 บาทค่ะ

• Bioderma Sensibio Defensive Rich

ครีมบํารุงผิวหน้า ผิวแพ้ง่าย ช่วยปกป้องผิวจากแสงแดด มลภาวะ และสารเคมี ช่วยฟื้นบำรุงผิวให้แข็งแรงจากภายใน ลดการระคายเคือง และยังช่วยให้ผิวดูชุ่มชื้นขึ้น สัมผัสของครีมบำรุงหน้าเนื้อเนียน แห้งไว เกลี่ยง่าย ปราศจากน้ำหอมและพาราเบน เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวแห้งมาก บอบบางระคายเคืองง่าย

ขนาดบรรจุภัณฑ์ 40 ml ราคา 940 บาทค่ะ

• BIODERMA SEBIUM SENSITIVE

ครีมบํารุงผิวหน้า ลดรอยสิว ส่วนผสมครีมทาหน้า Bioderma Sebium Sensitive เด่น ๆ คือสารสกัด Bakuchiol ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มากกว่าวิตามินอีถึง 2 เท่า และมี Seborestore Technology Mattifying powders และ Zinc gluconate ที่ช่วยให้ปรับสมดุล ดูดซับ และควบคุมความมันบนใบหน้า และยังช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นได้ยาวนานอีกด้วยค่ะ ครีมทาหน้าตัวนี้เหมาะกับผู้ที่ผิวเป็นสิว ผิวมันและผิวผสมค่ะ

ขนาดบรรจุภัณฑ์ 30 ml ราคา 890 บาทค่ะ

• BIODERMA SEBIUM PORE REFINER

ครีมทาหน้ากระชับรูขุมขนด้วยสารสกัดจากเห็ดยุโรปตะวันออก (Fomes Officinalis Mushroom Extract) และสารสกัดจากใบแปะก๊วย (Ginkgo Biloba) พร้อมด้วยสิทธิบัตร Fludactive® ช่วยปรับสมดุลน้ำมันบนผิว และลดการอุดตัน ให้คุณสัมผัสผิวละเอียด เรียบเนียน กว่าที่เคย ผ่านการทดสอบโดยแพทย์ผิวหนัง ปราศจากแอลกอฮอล์และพาราเบน ไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ และไม่ทำให้อุดตันรูขุมขน เหมาะกับผู้ที่มีผิวมันค่ะ

ขนาดบรรจุภัณฑ์ 30 ml ราคา 890 บาทค่ะ

• BIODERMA ATODERM PP BAUME

จะหน้าสวยอย่างเดียวก็ไม่ดี ดังนั้นก็ควรจะบำรุงผิวกายด้วย ทาง Bioderma นอกจากผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าแล้ว เขาก็ยังมีครีมบำรุงผิวกายอีกด้วย ออโตเดิร์ม พีพี บูเม่ ครีมบำรุงผิวสำหรับผิวแห้งมาก ดูแลผิวจากภาวะแห้งกร้านรุนแรง ด้วย Écodéfensine® สิทธิบัตรเฉพาะที่ช่วยรักษาสมดุลของระบบนิเวศน์ในผิว ปกป้องผิวอย่างเป็นธรรมชาติจากจากสิ่งเร้าภายนอก วิตามิน พีพี และมอยซ์เจอไรเซอร์ช่วยดูแลและฟื้นบำรุงให้ผิวแข็งแรงขึ้น พร้อม zanthalane ดูแลผิวมีปัญหา คัน ระคายเคืองได้ยาวนาน

ขนาดบรรจุภัณฑ์ 200 ml ราคา 890 บาทค่ะ

• BIODERMA ATODERM INTENSIVE BAUME

ตัวสุดท้ายที่อยากแนะนำจากแบรนด์ Bioderma ก็คือไบโอเดอร์มา ออโตเดิร์ม อินเทนซีฟ บูเม่ – ทรีทเมนต์สูตรเข้มข้นสำหรับผิวมีปัญหาแห้ง ช่วยฟื้นบำรุงและเสริมสร้างความแข็งแรงให้ผิว ไม่มีน้ำหอม พาราเบน และสารอื่น ๆ ที่ก่ออาการแพ้ เหมาะสำหรับใช้ทาประจำวัน

ขนาดบรรจุภัณฑ์ 200 ml ราคา 950 บาทค่ะ

อันดับที่ 2 ครีมบำรุงผิวหน้า EUCERIN

• Eucerin Pro Acne Solution A.I. Matt Fluid

ครีมบํารุงผิวหน้า ลดรอยสิว สำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวมัน มีแนวโน้มเป็นสิวง่าย ด้วยส่วนผสมจากสารสกัดธรรมชาติ ลิโคชาล ช่วยลดรอยดำรอยแดงจากสิว และยังมี Salicylic acid ช่วยจัดการหัวสิว ทำให้สิวอุดตันลดลง นอกจากนี้ยังช่วยลดความมันบนใบหน้าได้ถึง 8 ชั่วโมง ลดการสะสมของแบคทีเรียซึ่งเป็นหนึ่งในสาเหตุของการเกิดสิว และยังทำให้ผิวไม่ไวต่อการอุดตันซ้ำค่ะ

ขนาดบรรจุภัณฑ์ 50 ml ราคา 990 บาท

อันดับที่ 3 ครีมบำรุงผิวหน้า CUREL

• CUREL Intensive Moisture Cream

ครีมบำรุงผิวหน้า มอยเจอร์ไรเซอร์ทาหน้า สำหรับผู้มีผิวบอบบางแพ้ง่าย เน้นถึงการฟื้นฟูเกราะป้องกันผิวจากชั้นใน โดยช่วยรักษาระดับเซราไมด์ในผิว เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาผิวขาดเซราไมด์จนทำให้ผิวบอบบาง ลดอาการระคายเคืองจากผิวแห้ง ผิวลอกเป็นขุย เนื้อครีมเข้มข้นด้วยมอยส์เจอร์ไรเซอร์ทำให้ผิวชุ่มชื้น แต่สามารถซึมซาบเข้าสู่ผิวได้ง่าย สบายผิว ที่สำคัญไม่มีส่วนผสมจากสารก่อระคายเคืองอย่างน้ำหอม แอลกอฮอล์ และสี แถมยังมีค่า pH ที่เหมาะสมกับผิว ช่วยให้ pH บนผิวมีความสมดุลอีกด้วย

ขนาดบรรจุภัณฑ์ 40 ml ราคา 1,000 บาท

อันดับที่ 4 ครีมบำรุงผิวหน้า NEUTROGENA

• NEUTROGENA Hydro Boost Gel Cream 

ครีมทาหน้าชุ่มชื้นที่ช่วยเติมและกักเก็บน้ำ ได้ยาวนานถึง 48 ชั่วโมง ฟื้นบำรุงผิวแพ้ง่าย ช่วยให้ผิวดูสุขภาพดีขึ้น ปกป้องผิวถูกทำลายจากมลภาวะที่ทำให้ผิวขาดน้ำในแต่ละวัน ปราศจากสารก่อภูมิแพ้ ปราศจากน้ำมัน

ขนาดบรรจุภัณฑ์ 50 ml ราคา 599 บาท

อันดับที่ 5 ครีมบำรุงผิวหน้า ROJUKISS

• ROJUKISS White Poreless Day Cream SPF 35 PA+++ & ROJUKISS White Poreless Night Cream 

ครีมบำรุงหน้าขาว ใส แก้ปัญหาผิวหมองคล้ำ สีผิวไม่สม่ำเสมอจากจุดด่างดำและฝ้าแดด ด้วยประสิทธิภาพ Gigawhite ซึมซาบล้ำลึก ตรงเข้าจัดการความหมองคล้ำจากเม็ดสีผิวถึงในชั้นเซลล์ผิว พร้อม Witch Hazel ช่วยทำให้ผิวเรียบเนียน รูขุมขนกระชับ สำหรับเดย์ครีมมีสารกันแดดที่มีค่า SPF 35 PA+++ ช่วยปกป้องผิวจากรังสียูวีบี และยูวีเอ ปกป้องผิวจากความหมองคล้ำและจุดด่างดำที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

ขนาดบรรจุภัณฑ์ 45 ml ราคา 499 บาท ทั้งสูตร Day Cream และ Night Cream ค่ะ

อันดับที่ 6 ครีมบำรุงผิวหน้า MIZUMI

• MizuMi Skin Barrier Soothing Cream 

ครีมบํารุงผิวหน้า ผิวแพ้ง่าย ด้วยส่วนผสมจากเซราไมด์ 7 ชนิด โอเมก้า 3 และ 6 ใบบัวบก และวิตามินอี ช่วยเสริมปราการผิวให้ผิวแข็งแรงขึ้น สามารถทนต่อมลภาวะต่าง ๆ ได้มากขึ้น และยังช่วยให้ผิวชุ่มชื้น สามารถกักเก็บน้ำไว้ใต้ผิวได้ เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวแห้ง บอบบางและแพ้ง่าย

ขนาดบรรจุภัณฑ์ 45 g ราคา 690 บาท

อันดับที่ 7 ครีมบำรุงผิวหน้า ANUA

• ANUA Birch 70% Moisture Boosting Cream 

ครีมทาหน้าชุ่มชื้นด้วยสารสกัดจากไม้ Birch (ไม้เบริซ) ให้ความชุ่มชื้นสูง เนื้อครีมบางเบา สามารถซึมซาบเข้าสู่ผิวได้อย่างรวดเร็ว ไม่เหนียวเหนอะนะ พร้อมกับความรู้สึกเย็นสบายผิว สามารถเติมน้ำให้ผิวและกักเก็บความชุ่มชื้นได้นาน ผิวดูสุขภาพดีและไม่มัน

ขนาดบรรจุภัณฑ์ 50 ml ราคา 1,190 บาท

อันดับที่ 8 ครีมบำรุงผิวหน้า SMOOTH E

• SMOOTH E Cream Plus White

ครีมบำรุงผิวหน้าสูตรอ่อนโยน ไม่มีสารก่ออาการแพ้ด้วย พร้อมด้วยอัลฟ่า อาร์บูติน ลิโคไรซ์ ซึ่งเป็นสารสกัดจากธรรมชาติ  ช่วยให้สีผิวสม่ำเสมอ จุดด่างดำดูจางลง ลดเลือนริ้วรอยและรอยแผลเป็น และยังสามารถชะลอการเสื่อมสภาพของผิว คงความอ่อนเยาว์ไม่แก่ก่อนวัยค่ะ

ขนาดบรรจุภัณฑ์ 60 g ราคา 460 บาท

อันดับที่ 9 ครีมบำรุงผิวหน้า Olay

• Olay Regenerist Day Cream & Olay Regenerist Night Cream

ครีมบำรุงผิวหน้าที่เน้นถึงลดเลือนริ้วรอย กระชับผิว ให้ผิวแลดูอ่อนเยาว์ ด้วยส่วนผสมเข้มข้น Amino-Peptide Complex, Hyaluronic Acid และ Olivem ที่จะไปช่วยเรื่องผลัดเซลล์ผิว ผิวกระจ่างใสขึ้น และลดเลือนริ้วรอย จึงทำให้ผลังใช้ผิวจะดูเรียบเนียนขึ้น รอยลดลงอย่างเห็นได้ชัด และกรดไฮยาลูโรนิคและกลีเซอรีน ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น เนียนนุ่มมากขึ้น เหมาะกับทุกสภาพผิวและผู้ที่มีปัญหาริ้วรอยบนใบหน้าค่ะ 

ขนาดบรรจุภัณฑ์ 50 g ราคา 999 บาท ทั้งสูตร Day Cream และ Night Cream ค่ะ

อันดับที่ 10 ครีมบำรุงผิวหน้า POND’S

• POND’S Age Miracle Day Cream & POND’S Age Miracle Night Cream 

ครีมบำรุงผิวหน้าที่ดังในเรื่องลดริ้วรอย ฟื้นฟูให้หน้าแลดูอ่อนเยาว์ ครีมบำรุงผิวหน้า อายุ 40 ขึ้นไปเหมาะกับเจ้าตัวนี้สุด ๆ ด้วยคุณสมบัติที่เน้นถึงลดเลือนริ้วรอย จากไฮยาลูรอนและคอลลาเจนเข้มข้น และยังช่วยเร่งการผลัดเซลล์ผิวให้ดูกระจ่างใส ลดหน้าหมองคล้ำ ลดเลือนจุดด่างดำให้หน้าดูขาวใส ไร้ริ้วรอย สำหรับเนื้อสัมผัสของครีมทาผิวจะเป้นเนื้อครีมผสมออยล์ แต่สามารถซึมได้ง่ายและไม่เหนี่ยวเหนอะหนะ โดยซีรี่ย์นี้ก็จะมีทั้งสำหรับทากลางวันและกลางคืน เรียกได้ว่าบำรุงกันได้ตลอดวันเลยค่ะ

ขนาดบรรจุภัณฑ์ 50 g ราคา 479 บาท (Day Cream) และราคา 536 บาท (Night Cream) ค่ะ

4-Step ทาครีมบำรุงผิวหน้า เพื่อผลลัพธ์ที่ดีกว่า

หลาย ๆ คนอาจจะคิดแค่ว่าทา ๆ ครีมทาหน้าไปก็ได้ แต่ความจริงแล้วการทาครีมทาหน้าก็ยังมีขั้นตอนเพื่อให้ครีมทาหน้าสามารถซึมซาบเข้าสู่ผิวและออกฤทธิ์บำรุงผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด จะมีขั้นตอนอย่างไรบ้างเรามาดูกันเลยค่ะ

1. ทำความสะอาดผิวหน้า

สิ่งสำคัญอย่างแรกของการบำรุงผิวหน้าคือการทำความสะอาดผิวหน้านั่นเองค่ะ เพราะการล้างหน้าจะช่วยขจัดสิ่งสกปรกที่เกาะบนใบหน้า ซึ่งเป็นสาเหตุของปัญหาผิวหน้าแถมยังไปขัดขวางการซึมซาบผลิตภัณฑ์ฟื้นฟูผิวอีกด้วยค่ะ ดังนั้นเมื่อล้างหน้าและผิวสะอาดไร้สิ่งสกปรกแล้วจะช่วยให้การใช้ครีมบำรุงหน้าสามารถซึมซาบเข้าสู่ผิวและช่วยบำรุงผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นค่ะ

2. ทาครีมบำรุงผิวหน้าขณะที่หน้ายังหมาด ๆ 

เพื่อให้ครีมบำรุงหน้าทำหน้าที่ได้อย่างสมบูรณ์ ผิวหน้าควรยังมีความชุ่มชื้นจากน้ำ เมื่อทาครีมบำรุงผิวจะไปล็อคความชุ่มชื้นจากน้ำที่ยังหลงเหลืออยู่บนผิวได้ การบำรุงผิวหน้าจึงมีประสิทธิภาพมากขึ้นค่ะ 

3. ใช้ครีมทาหน้าในปริมาณเล็กน้อยก็เพียงพอ

อะไรที่มากไปก็ไม่ดี กับครีมทาหน้าก็เช่นเดียวกันค่ะ หากใช้ครีมทาหน้าในปริมาณที่มากเกินความจำเป็นนอกจากจะไม่ได้ช่วยให้ผลลัพธ์ดีขึ้นแล้วยังทำให้การซึมซาบเข้าสู่ชั้นผิวต้องใช้เวลานานกว่าการใช้ครีมทาหน้าในปริมาณเล็กน้อยที่เหมาะสม ยิ่งไปกว่านั้นทำให้รู้สึกเหนียวเหนอะหนะและไม่สบายผิวหน้าอีกด้วยค่ะ

4. วิธีลงครีมทาหน้าก็มีผลเหมือนกันนะ

ไม่ใช่ว่าแค่ควักครีมทาหน้าแล้วป้าย ๆ ครีมทาหน้าลงผิวก็เป็นอันใช้ได้ เพื่อให้การทาครีมทาหน้าสามารถทาได้ทั่วผิวหน้าและเพื่อให้ครีมทาหน้าซึมซาบลงสู่ผิวได้ดียิ่งขึ้น ควรค่อย ๆ กดครีมทาหน้าลงผิวหน้า หรือนวดหน้าขณะทาครีมทาหน้าก็ได้เช่นกัน การทาครีมทาหน้าแบบปาด ๆ ไปมั่วนอกจากครีมทาหน้าจะซึมซาบลงสู่ผิวหน้าได้ยากแล้วยังทำให้หน้าเกิดรอยเหี่ยวย่นได้เร็วขึ้นด้วยค่ะ

ข้อสรุป

ครีมทาหน้าเป็นผลิตภัณฑ์ที่ช่วยปกป้องผิวจากมลภาวะและสิ่งสกปรกที่จะมาทำร้ายผิวหน้า และยังช่วยแก้ปัญหาผิวหน้าต่าง ๆ ได้อีกด้วย เพราะจากสภาพและปัญหาผิวที่แตกต่างกันทำให้มีผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าออกจำหน่ายหลากหลายสูตร หลากหลายยี่ห้อ เราอาจจะพิจารณาได้จากเงื่อนไขของการเลือกครีมบำรุงผิวหน้าที่เหมาะกับสภาพผิวและปัญหาผิว หรือจากการอ่านรีวิวจากผู้ที่เคยใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้านั้น ๆ แต่การเลือกใช้ครีมบำรุงผิวหน้ายี่ห้อไหนดีที่เหมาะสมกับตัวเรานั้นต้องขึ้นกับสภาพผิวของแต่ละคนจริง ๆ ค่ะ