ฉีดโบท็อกหัตถการด้านความงาม

โบท็อก (Botox) ปรับรูปหน้า กรอบหน้าที่ชัดเจน

โบท็อกในปัจจุบันถือเป็นหัตถการด้านความงามอันดับตันๆที่ได้รับความนิยมสูงสุดในประเทศไทย และทั่วโลก ในเรื่องของการปรับรูปหน้า ทำให้หน้าเรียว ลดปัญหาริ้วรอย มีกรอบหน้าที่ชัดเจน ลดปัญหาความหย่อนคล้อยของใบหน้า รวมไปถึงลดเหงื่อและกลิ่นตัวได้อีกด้วย

หลายคนๆ เรื่องของความสวยความงามเป็นเรื่องที่ให้ความสำคัญไม่น้อย ด้วยวิทยาการการแพทย์ในปัจจุบันมีความก้าวหน้ามากยิ่งขึ้น ทางเลือกในการเลือกผลิตภัณฑ์และการเสริมความงามก็มีมากมาย ที่เป็นตัวช่วยให้เป็นไปได้ตามความต้องการ

ซึ่งหนึ่งในวิธีการที่คนนิยมในปัจจุบันนั้นก็คือการฉีดโบท็อกแต่คงไม่ปฏิเสธว่าโบท็อกที่คนนิยมฉีดนั้นมีทั้งข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกันออกไป มักจะได้ยินข่าวของผลเสียรวมถึงอาการข้างเคียงของผู้ที่เคยได้รับการฉีดสารชนิดนี้เป็นจำนวนมาก

ทั้งนี้ในการฉีดโบท็อกจะต้องเลือกโบท็อกที่มีคุณภาพดี มีการการันต์ตีจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และควรเลือกคลินิกที่เชื่อถือได้ เพื่อความปลอดภัยสำหรับผู้ที่ต้องการที่จะใช้บริการF


โบท็อก (Botox) คืออะไร

โบท็อกตัวช่วยเรื่องความงาม

“โบทูลินั่ม ท็อกซิน เอ” (Botulinum toxin A) หรือชื่อทางการค้าเรียกว่า โบท็อก (Botox) ซึ่งเป็นโปรตีนชนิดหนึ่งที่สร้างจากเชื้อแบคทีเรีย ชื่อคลอสตริเดียม โบทูลินั่ม (Clostridium botulinum) ที่ก่อให้เกิดโรคอาหารเป็นพิษแก่มนุษย์ หากได้รับในปริมาณมากๆ ซึ่งอาจจะเป็นอันตรายถึงชีวิตได้

เริ่มต้นโดยการนำโบท็อก (Botox) มารักษากล้ามเนื้อคอกระตุก กล้ามเนื้อตากระตุก รวมถึงอาการปวดไมเกรน  ตาเหล่ ในภายหลังโบท็อก (Botox) ได้มีการรับรองมาตรฐานจากองค์การอาหารและยาหรือ อย. นอกจากจะนำมาใช้ในการรักษาโรคต่างดังกล่าวแล้วยังมีการนำมาใช้กับความงามเช่นการฉีดเพื่อลดริ้วรอย ปรับรูปหน้าเรียว ได้อีกด้วย


หลักการทำงานของโบท็อก

ฉีดโบท็อกตัวช่วยหน้าเรียว

โบท็อก จะทำงานโดยออกฤทธิ์ด้วยการไปจับกับส่วนปลายของเซลล์ประสาท ทำให้เซลล์ประสาทไม่สามารถหลั่งสารสื่อประสาทได้ เป็นผลทำให้ให้กล้ามเนื้อไม่สามารถหดตัวได้ หรือที่เรียกได้ว่า การเกิดอัมพาตของกล้ามเนื้อนั่นเอง

โดยโบท็อก จะเกิดผลเฉพาะกล้ามเนื้อมัดที่ได้รับการฉีด หลังจากที่มีการฉีดโบท็อกภายใน 2-3 วัน ถึงจะเริ่มออกฤทธิ์ เห็นผลสูงสุดใน 1-2 สัปดาห์ และมีฤทธิ์อยู่ได้นาน 3-4 เดือน หลังจากนั้นกล้ามเนื้อจะค่อยๆกลับมาหดตัวได้เหมือนเดิม เนื่องจากฤทธิ์ที่ไม่ถาวรจึงทำให้ผู้ป่วยต้องได้รับการรักษาซ้ำ หากต้องการคงสภาพของผลการรักษา


ผลลัพธ์ของการทำโบท็อก

อย่างไรก็ตามจากการกล่าวไปข้างต้นจะเห็นได้ว่าในการฉีดโบท็อกนั้นมีทั้งข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกันออกไป ดังนั้นผลลัพธ์ของการใช้โบท็อกก็จึงแตกต่างไปดังนี้

  1.  ฉีดโบลดริ้วรอยสามารถแก้ปัญหาริ้วรอยได้
  2. ทำให้รูปหน้าเรียวเล็กลงโดยการฉีดโบท็อกหน้าเรียว
  3. มีผลลัพธ์ที่เห็นผลเร็ว ทั้งนี้จะขึ้นอยู่กับประเภทของการฉีด ซึ่งอาจจะมีทั้งเห็นผลและใช้เวลาเพื่อให้โบท็อกออกฤทธิ์ เป็นต้น
  4. มีความปลอดภัยโดยมีใบรับรอง จากองค์การอาหารและยา
  5. ในการฉีดโบท็อกมีวิธีการและขั้นตอนในการเตรียมตัวฉีด และการฉีดที่ไม่ยุ่งยาก สะดวกสบาย
  6. เมื่อฉีดโบท็อกเสร็จเรียบร้อยสามารถทำกิจกรรมต่าง ๆ ตามปกติได้ทันที
  7. เพิ่มความมั่นใจให้กับตัวเอง
  8. มีผลข้างเคียงน้อย

ตำแหน่งที่นิยมฉีดโบท็อก

ฉีดโบท็อกแก้ไขปัญหาทุกความหย่อนคล้อย

จากหลักการทำงานของโบท็อกซ์ดังกล่าวจึงมีการนำมาใช้ในการลดริ้วรอยที่เกิดจากการแสดงสีหน้าโดยส่วนใหญ่จะนิยมฉีดโบท็อกโหนกแก้ม ฉีดโบท็อกหางตา ฉีดโบลดริ้วรอย ฉีดโบหน้าผาก โบท็อกใต้ตา ฉีดโบลดกราม เป็นต้น เพื่อให้หน้ากระชับและลดริ้วรอย รวมไปถึงนำมาลดขนาดกล้ามเนื้อใช้ในการปรับรูปหน้าเรียวเล็กโดยการโบท็อกหน้าเรียว และนำมาใช้ฉีดลดเหงื่อฝ่ามือฝ่าเท้า และบริเวณรักแร้ อีกทั้งยังสามารถโบท็อกลิฟกรอบหน้าเพื่อให้ใบหน้าดูยกกระชับ และเป็นการฉีดโบลดกรามสร้างกรอบหน้าได้อีกด้วย

อ่านเพิ่มเติม โบท็อกริ้วรอยใต้ตา


ฉีดโบท็อกดีไหม? โบท็อกมีผลข้างเคียงหรือเปล่า 

สำหรับหลายคนที่เกิดปัญหาที่ต้องการการแก้ไขโดยการฉีดโบทูลินั่ม ท็อกซินหรือโบท็อกเพื่อแก้ไขปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นนั้น จากการสำรวจสถิติของผู้ที่ฉีดโบท็อกเพื่อแก้ไขปัญหาต่างๆดังกล่าวนั้น พบว่าโดยส่วนมากแล้วผู้ที่ฉีดโบท็อกไม่มีอันตรายถึงชีวิต  เมื่อใช้โดยผู้เชี่ยวชาญและใช้ฉีดเพื่อเสริมความงาม

ดังนั้นการฉีดโบท็อกเพื่อรักษาโรคหรือเสริมความงามของใครหลายๆคนนั้นไม่ได้เป็นอันตรายต่อชีวิตโดยมีการรับรองจากองค์การอาหารและยา และการสำรวจในกลุ่มของผู้ที่นิยมฉีดโบท็อกอีกด้วย

แต่อย่างไรก็ตาม ทุกอย่างล้วนแล้วแต่มีทั้งข้อดีและข้อจำกัด ในการฉีดโบท็อกนั้นบางคนอาจจะเกิดผลข้างเคียงที่เกิดจากการฉีดที่ได้แก่ อาการปวดศีรษะหรือความรู้สึกเจ็บๆคันๆ หรือมีรอยช้ำจากการที่เข็มฉีดยาทำให้เกิดความบาดเจ็บต่อหลอดเลือด มักเกิดบริเวณหางตา อาการปวดบวมบริเวณที่ฉีด กล้ามเนื้ออ่อนแรงเฉพาะที่  อาการคิ้วหรือหนังตาตก ซึ่งผลข้างเคียงเหล่านี้มักเป็นเล็กน้อยหรือปานกลาง และมักหายไปเองใน 1-2 สัปดาห์


โบท็อกราคาเท่าไหร่? แพงไหม?

การฉีด botox ในปัจจุบันเป็นการนำเอาความสวยงามมาผสมผสานกับวิทยาศาสตร์ ทำให้การดูแลความสวยความงามเป็นเรื่องที่เข้าถึง และง่ายขึ้น โดยมีทางเลือกในการดูแลรักษาความงามที่หลากหลายมากขึ้น  ไม่ว่าจะเป็น โบท็อกเกาหลี  โบท็อกซ์จาก อเมริกา และอังกฤษ

จากการนำเข้ามาของโบท็อกแต่ละประเภทนั้น ทำให้คุณภาพ ประสิทธิภาพของการออกฤทธิ์แตกต่างกันออกไป แน่นอนว่าราคาของการนำเข้ามาก็ย่อมจะมีความแตกต่างกันออกไปตามแต่ละยี่ห้อ และการนำเข้า รวมไปถึงค่าหัตถการของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพของการใช้งาน

ยกตัวอย่างเช่น โบท็อกซ์อเมริกาที่มีผลการวิจัยทางการแพทย์สูงสุด จึงมีค่าทางการแพทย์สูงสุดเช่นเดียวกัน ฉีดโบท็อก100ยูนิตราคา10,000 บาทขึ้นไป หรือโบท็อกเกาหลีที่ผ่านการรับรองจาก อย.ไทยฉีดแล้วมีความเป็นธรรมชาติสูง หน้าดูไม่แข็ง ฉีดโบท็อก100ยูนิตราคาเริ่มต้นที่ 8,000-10,000 บาทขึ้นไป


สิ่งควรรู้ก่อนฉีดโบท็อก

ปรึกษาแพทย์ก่อนฉีดโบท็อก

ในการเตรียมตรวจก่อนไปฉีดโบท็อก ควรเลือกใช้โบท็อกแท้ที่ผ่านกี่รับรองจาก อย. ไทย และก่อนฉีดควรให้แพทย์ผสมโบท็อกให้ดูทุกครั้ง เพื่อให้มั่นใจว่าไม่ได้เจือจางน้ำเกลือมากเกินไป ควรเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐานและหมอที่มีประสบการณ์ ไม่ควรฉีดโบท็อกเกิน 300 ยูนิต ต่อครั้ง ระหว่างการฉีดโบท็อกควรประคบด้วยความเย็น เพื่อลดการไหลเวียนของเส้นเลือดรอบๆ


สังเกตโบท็อกของแท้อย่างไร?

การตัดสินใจในการเลือกโบท็อกควรเลือกของแท้เท่านั้น โดยวิธีการสังเกตดูโบท็อกแท้ ต้องมีฝาพลาสติกใสปิดทับอยู่ด้านบน มีตัวหนังสือภาษาไทยแสดงเลขที่อย. มีวันผลิตและวันหมดอายุที่กล่องกับขวดตรงกัน มีข้อมูลระบุว่านำเข้าโดยบริษัทใด ทั้งนี้เพื่อที่จะสามารถตรวจสอบโบท็อกที่นำมาฉีดได้ในเบื้องต้นได้  


คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการฉีดโบท็อก

ในการฉีดโบท็อกครั้งแรกของใครหลายๆคนอาจจะเกิดคำถามเกี่ยวกับการเตรียมตัว หรือแม้กระทั่งเรื่องของความปลอดภัยในการฉีด ยกตัวอย่างคำถามที่พบมากที่สุดในการฉีดโบท็อก เช่น 

ฉีดโบท็อกไม่เจ็บอย่างที่คิด

1. ฉีดโบท็อกเจ็บไหม?

ฉีดโบท็อกไม่เจ็บอย่างที่คิด ในขณะที่ฉีดความรู้สึกเหมือนมดกัดไม่ได้เจ็บขนาดทนไม่ไหว ไม่เจ็บและไม่น่ากลัวอย่างที่คิด แต่หากกลัวเจ็บมากๆ สามารถทายาชาหรือประคบน้ำแข็งเพื่อลดความเจ็บจากเข็ม ในการฉีดโบท็อกนั้นเป็นหัตถการที่ใช้เวลาไม่นาน เห็นผลการเปลี่ยนแปลงได้อย่างชัดเจน

2. ฉีดโบท็อกจะเห็นผลเมื่อไหร่ กี่วันเห็นผล?  

สำหรับการฉีดโบท็อกโดยทั่วไปแล้วจะเกิดผลเฉพาะกับกล้ามเนื้อมัดที่ได้รับการฉีด ขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่ฉีดและยี่ห้อโบท็อก ฉีดโบลดริ้วรอย ลดกราม จะใช้เวลาเห็นผลไม่เท่ากัน หลังฉีดโบท็อกริ้วรอย หางตา หน้าผาก ขมวดคิ้ว และลิฟท์กรอบหน้า จะเริ่มออกฤทธิ์ภายใน 2-3 วัน เห็นผลสูงสุดใน 1-2 สัปดาห์ และมีฤทธิ์อยู่ได้นาน 3-4 เดือน หลังจากนั้นกล้ามเนื้อจะค่อยๆกลับมาหดตัวได้เหมือนเดิม เนื่องจากว่าฤทธิ์ที่ไม่ถาวรของโบท็อกจึงทำให้ต้องได้รับการรักษาซ้ำ หากต้องการคงสภาพของผลการรักษา

3. ฉีดโบท็อกมาแล้วหน้าบวม เกิดจากอะไร?

หลังจากฉีดโบท็อกมาแล้วเกิดอาการบวม แดง ช้ำ เขียว ตรงบริเวณที่ฉีด ไม่สามารถบังคับกล้ามเนื้อบนใบหน้าได้ สาเหตุเกิดอาจเกิดจากปริมาณโบท็อกซ์ที่ฉีดเข้าไปไม่เหมาะสม หางคิ้วกระดก เทคนิคการฉีดที่ไม่เหมาะสม หรือไม่ถูกต้อง 


ฉีดโบท็อกที่ไหนดี?

ในการเลือกคลินิกในฉีดโบท็อกซ์ที่มีคุณภาพและเป็นที่ยอดนิยมในปัจจุบันนี้ขอแนะนำ รมย์รวินท์ คลินิก เป็นคลินิกที่ได้รับมาตรฐาน พร้อมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำปรึกษา ในเรื่องของความงามด้วยวิธีการทางการแพทย์ นอกจากนี้ยังมีโปรแกรมยกกระชับหน้าด้วย HIFU ทำแล้วเห็นผลชัดเจนสามารถติดต่อได้ที่ LINE:@Romrawinclinic หรือเบอร์โทรศัพท์ 080-1539000 และ 080-1549000

Similar Posts