บุหรี่มวน (Cigarette) ของอันตรายที่ผู้คนยังนิยมสูบ
บุหรี่ (Cigarette) เป็นสิ่งที่อยู่คู่กับคนไทยมาอย่างยาวนาน โดยผู้คนนิยมสูบบุหรี่เพื่อทำให้รู้สึกผ่อนคลายความเครียดกับเรื่องต่าง ๆ ที่ต้องเผชิญหรือแก้ปัญหา แต่สิ่งสำคัญคือต้องทราบว่าการสูบบุหรี่อาจส่งผลร้ายแรงต่อทั้งผู้สูบบุหรี่และผู้ที่ได้รับควันบุหรี่ จึงมีความพยายามควบคุมและสนับสนุนการเลิกสูบบุหรี่เพื่อลดอันตรายที่เกิดจากการสูบบุหรี่
รวมถึงมีการผลิตบุหรี่ไฟฟ้าขึ้น เพื่อลดการเกิดอันตรายต่อผู้ที่รับควันจากการบุหรี่ ซึ่งบุหรี่ไฟฟ้ามีการพกพาได้สะดวก และผลของการสูบไม่ต่างกับบุหรี่มวนทั่วไปนัก แต่ก็ยังมีความอันตรายที่ต้องระวัง เพราะฉะนั้นควรสูบบุหรี่ให้ได้อย่างเหมาะสม
ประวัติของบุหรี่ว่ามีความเป็นมาอย่างไร
การสูบบุหรี่มีมาตั้งแต่สมัยโบราณ โดยสามารถสืบย้อนไปถึงอารยธรรมโบราณ รวมถึงชาวมายันและชาวแอซเท็กในอเมริกา ซึ่งมีการใช้ใบยาสูบเพื่อวัตถุประสงค์ทางศาสนาและการรักษาโรคต่าง ๆ ต่อมาหลังจากการเดินทางของคริสโตเฟอร์ โคลัมบัสที่เดินทางจากยุโรปไปยังอเมริกาในปลายศตวรรษที่ 15 ได้นำบุหรี่กลับมายังทวีปยุโรป และได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว
โดยในช่วงปลายศตวรรษที่ 18 การประดิษฐ์เครื่องมวนบุหรี่ในปี ค.ศ. 1881 โดยเจมส์ บอนแซคได้ปฏิวัติอุตสาหกรรมยาสูบ ทำให้สามารถผลิตจำนวนมากและทำให้บุหรี่มีราคาไม่แพงและเข้าถึงได้มากขึ้น ต่อมาในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 และต้นศตวรรษที่ 20 การบริโภคบุหรี่เพิ่มขึ้นอย่างมาก บริษัทยาสูบเริ่มใช้แคมเปญโฆษณาและนวัตกรรมบรรจุภัณฑ์เพื่อส่งเสริมแบรนด์ของตน โดยเชื่อมโยงการสูบบุหรี่กับความเย้ายวนใจ ความสำเร็จ และประโยชน์ต่อสุขภาพ
ซึ่งในช่วงกลางศตวรรษที่ 20 มีการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ โดนเน้นย้ำถึงผลเสียต่อสุขภาพจากการสูบบุหรี่ ในปี ค.ศ. 1964 มีรายงานของศัลยแพทย์ในประเทศสหรัฐอเมริการะบุว่าการสูบบุหรี่เป็นสาเหตุหลักของมะเร็งปอดและโรคอื่น ๆ ซึ่งนำไปสู่การตระหนักถึงความอันตรายที่เกิดขึ้น ทำให้รัฐบาลทั่วโลกเริ่มใช้กฎระเบียบเพื่อควบคุมการสูบบุหรี่ มาตรการเหล่านี้รวมถึงคำเตือนด้านสุขภาพบนซองบุหรี่ ข้อจำกัดในการโฆษณายาสูบ และการห้ามสูบบุหรี่ในที่สาธารณะ
ในปัจจุบันมีการผลิตบุหรี่ไฟฟ้าแทนบุหรี่แบบดั้งเดิม โดยยังมีการถกเถียงกันอย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับความเสี่ยงและความอันตรายต่อสุขภาพที่อาจเกิดขึ้นกับร่างกายของผู้สูบ
บุหรี่มวนประกอบไปด้วยอะไรบ้าง
ซึ่งก่อนที่จะสูบบุหรี่ ก็ต้องรู้ว่าบุหรี่มวนประกอบไปด้วย
- กระดาษมวน มักทำจากเส้นใยพืช เช่น ปอ ข้าว หรือกัญชง ได้รับการออกแบบให้มีน้ำหนักเบา ติดไฟได้ และเผาไหม้ช้า
- ก้นกรอง ซึ่งบุหรี่ที่ผลิตในจำนวนมาก จะมีก้นกรองติดอยู่ที่ปลายด้านหนึ่ง ก้นกรองมักทำจากเซลลูโลสอะซิเตตซึ่งเป็นพลาสติกชนิดหนึ่ง จุดประสงค์คือเพื่อดักจับน้ำมันดินและฝุ่นละอองในควันบุหรี่
- สารสำหรับสูบ ซึ่งส่วนประกอบหลักของบุหรี่คือใบยาสูบที่หั่นละเอียด อาจใช้ยาสูบชนิดต่าง ๆ และใบจะผ่านกระบวนการบ่ม อบแห้ง และอาจมีการปรุงรสร่วมด้วย
บุหรี่ไฟฟ้าปลอดภัยกว่าบุหรี่มวนจริงหรือไม่
การสูบบุหรี่ไฟฟ้าเมื่อเปรียบเทียบกับการสูบบุหรี่มวนนั้น ในทางวิทยาศาสตร์แม้บุหรี่ไฟฟ้าจะอันตรายน้อยกว่าบุหรี่มวน แต่ก็ไม่ถือว่าปลอดภัยอย่างสมบูรณ์ 100% เพราะในบุหรี่ไฟฟ้ายังมีนิโคตินซึ่งเป็นสารเสพติด การติดนิโคตินอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพหลายประการ โดยเฉพาะกับคนหนุ่มสาวและผู้ที่ไม่เคยได้รับสารนิโคตินมาก่อน สิ่งสำคัญคือต้องทราบว่าบุหรี่ไฟฟ้าบางชนิดอาจมีระดับนิโคตินใกล้เคียงหรือสูงกว่าบุหรี่ทั่วไป ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับอุปกรณ์และรูปแบบการใช้งานด้วย
ผลกระทบต่อสุขภาพของบุหรี่
การสูบบุหรี่เป็นที่รู้กันว่าส่งผลกระทบต่อสุขภาพร่างกาย เช่น
- เกิดปัญหาการเจริญพันธุ์ ในผู้หญิงจะเพิ่มความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อนระหว่างตั้งครรภ์ (เช่น การตั้งครรภ์นอกมดลูกและการแท้งบุตร) และทำให้น้ำหนักแรกเกิดลดลงและการคลอดก่อนกำหนด ส่วนในผู้ชาย การสูบบุหรี่สามารถทำให้เกิดภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ และทำให้สเปิร์มมีคุณภาพลดลง
- เป็นอันตรายต่อสุขภาพช่องปากและเป็นสาเหตุหลักของปัญหาทางทันตกรรมต่าง ๆ รวมถึงโรคเหงือก ฟันผุ การสูญเสียฟัน และมะเร็งช่องปาก
- เพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งหลายชนิด รวมถึงมะเร็งในปาก ลำคอ หลอดอาหาร ตับอ่อน กระเพาะปัสสาวะ ไต ปากมดลูก และกระเพาะอาหาร การสูบบุหรี่ยังก่อให้เกิดความเสี่ยงสูงในการเกิดมะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิดเฉียบพลันแบบมัยอีลอยด์
ความเสี่ยงการเป็นโรคต่าง ๆ และอัตราการเสียชีวิตจากการสูบบุหรี่
การสูบบุหรี่สามารถทำให้เกิดโรคต่าง ๆ มากมาย ซึ่งหลายโรคร้ายแรงและอาจถึงแก่ชีวิตได้ เช่น
- มะเร็งปอด ซึ่งมีสาเหตุโดยตรงจากการสูบบุหรี่ สารก่อมะเร็งในควันบุหรี่สามารถทำลายเซลล์ในปอด นำไปสู่การพัฒนาเป็นเนื้องอกมะเร็ง
- โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง เป็นโรคระบบทางเดินหายใจเรื้อรังที่มีอาการต่าง ๆ เช่น หลอดลมอักเสบเรื้อรังและถุงลมโป่งพอง การสูบบุหรี่ทำให้เกิดการอักเสบและการอุดตัน ซึ่งส่งผลให้หายใจลำบาก ไอ หายใจมีเสียงหวีด และอาการทางระบบทางเดินหายใจอื่น ๆ
- โรคหัวใจและหลอดเลือด โดยสารเคมีในควันบุหรี่ จะทำให้เกิดการก่อตัวของคราบจุลินทรีย์ในหลอดเลือดแดง นำไปสู่การตีบและอุดตัน ซึ่งส่งผลให้ลดการไหลเวียนของเลือดไปยังหัวใจและอวัยวะสำคัญอื่น ๆ
- การติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ เช่น โรคปอดบวม หลอดลมอักเสบ และไข้หวัดใหญ่ เกิดจากระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอลง ทำให้ผู้สูบบุหรี่มีความไวต่อการติดเชื้อมากขึ้น
- มะเร็งช่องปากและลำคอ ซึ่งสารเคมีในควันบุหรี่สามารถทำลายเซลล์เยื่อบุช่องปากและลำคอได้โดยตรง ซึ่งนำไปสู่การพัฒนาของเนื้องอกมะเร็ง
- มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ โดยสารเคมีที่เป็นพิษในควันบุหรี่จะถูกขับออกทางปัสสาวะ ทำให้เยื่อบุกระเพาะปัสสาวะสัมผัสกับสารก่อมะเร็ง และเพิ่มโอกาสในการเกิดมะเร็ง
- มะเร็งตับอ่อน ซึ่งสารที่เป็นอันตรายในควันบุหรี่สามารถทำลายตับอ่อนและส่งเสริมการพัฒนาของเซลล์มะเร็งได้
สรุป
การสูบบุหรี่ เป็นหนึ่งในวิถีชีวิตที่อยู่คู่กับคนไทยมาอย่างยาวนาน โดยไม่ว่าจะเป็นบุหรี่มวนหรือบุหรี่ไฟฟ้าล้วนไม่ดีต่อสุขภาพ เพราะมีสารนิโคตินซึ่งเป็นอันตรายอย่างมาก จึงควรสูบอย่างพอดีหรือควรเลิกสูบบุหรี่เลยดีกว่าเพื่อสุขภาพที่ดี ลดความเสี่ยงของโรคที่เกิดจากการสูบบุหรี่ได้