เปรียบเทียบบัตรเครดิตktc

เปรียบเทียบบัตรเครดิต สิทธิประโยชน์แบบใดที่เหมาะกับเรา ปี 2023

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าปัจจุบันบัตรเครดิตเข้ามามีบทบาทในชีวิตของเรามากยิ่งขึ้น ซึ่งบัตรเครดิตได้เข้ามาช่วยให้ชีวิตประจำวันของเราง่ายและสนุกสนานยิ่งขึ้น สามารถตอบโจทย์ให้กับทุกไลฟ์สไตล์ ทุกรูปแบบการใช้ชีวิต เพราะบัตรเครดิตสามารถช่วยในการชำระค่าสินค้าและบริการแทนการใช้เงินสด และยังสามารถรับสิทธิประโยชน์จากการใช้บัตรเครดิตมากมายตามรายการส่งเสริมการขายของบัตรเครดิตประเภทต่าง ๆ เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่ ยุคสังคมไร้เงินสด ธนาคารต่าง ๆ จึงออกแบบบัตรเครดิตให้มีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น เพื่อให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ของคนที่หลากหลาย

วันนี้เราจึงรวบรวมบัตรเครดิตต่าง ๆ ของทาง KTC ว่าแต่ละใบมีสิทธิประโยชน์พิเศษอย่างไรบ้าง เพื่อเป็นข้อมูลให้สามารถพิจารณาเปรียบเทียบบัตรเครดิตที่จะตอบโจทย์การใช้งานของคุณได้มากที่สุด


‘บัตรเครดิต’ สำคัญอย่างไรในยุคนี้ 

ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมาประเทศไทยได้เข้าสู่ยุคสังคมแบบไร้เงินสด ถึงแม้จะยังไม่เต็มรูปแบบแต่ก็เห็นได้ชัดว่า การใช้เงินสดถูกแทนที่ด้วยการชำระแบบดิจิทัลและการใช้บัตรเครดิตชำระค่าสินค้าและบริการต่าง ๆ แทนมากขึ้น โดยที่ผู้คนเริ่มใช้หรือพกพาเงินสดไว้กับตัวน้อยลง บัตรเครดิตจึงเป็นตัวเลือกที่สำคัญและตัวเลือกที่น่าสนใจ เพราะคุณสามารถพกเพียงแค่บัตรเครดิตก็สามารถสร้างข้อแตกต่างและความคุ้มค่ามากกว่าการใช้จ่ายด้วยเงินสดอย่างเดียว เพราะบัตรเครดิตแต่ละใบมีสิทธิประโยชน์ ไม่ว่าจะเป็นส่วนลดต่าง ๆ ที่มีเฉพาะผู้ถือบัตรเครดิต โปรโมชั่นผ่อน 0 % และการแลกรับเครดิตเงินคืนที่ช่วยให้การใช้จ่ายถูกกว่าการใช้เงินสด เกิดการใช้งานที่รวดเร็ว สามารถผูกเข้ากับแอปพลิเคชันธนาคารทำให้เกิดการใช้จ่ายผ่านทางออนไลน์สะดวกและรวดเร็ว นอกจากนี้การใช้บัตรเครดิตยังลดการสัมผัสการติดเชื้อโควิด-19 หรือสัมผัสเสี่ยงต่าง ๆ ได้อย่างดี รวมถึงการที่ผู้ใช้บัตรเครดิตมีโอกาสกู้สินเชื่อบ้านหรือซื้อรถให้ได้รับการอนุมัติสินเชื่อง่ายกว่าผู้ที่ไม่มีบัตรเครดิต ดังนั้นเราควรพิจารณาเปรียบเทียบบัตรเครดิตต่าง ๆ ที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ตัวเองเพื่อใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด


แนวทางการเลือกบัตรเครดิตให้เหมาะกับตัวเอง 

1. วิเคราะห์พฤติกรรมการจับจ่ายใช้สอยของตัวเอง

สิ่งที่ควรสังเกตก่อนเริ่มทำบัตรเครดิต คือ การที่เรารู้จักสังเกตและประเมินพฤติกรรมการจับจ่ายใช้สอยของตนเองที่ผ่านมาว่า เรามีพฤติกรรมในการจ่ายเงินไปกับสิ่งใดบ้าง ไม่ว่าจะเป็นสินค้าหรือบริการแบบไหนรวมถึงช่องทางการใช้จ่าย เช่น ใช้จ่ายประจำที่ห้างสรรพสินค้าหรือทางออนไลน์ การรู้จักพฤติกรรมต่าง ๆ เหล่านี้ จะช่วยให้เราสามารถเปรียบเทียบบัตรเครดิตที่ตอบโจทย์ได้ง่ายขึ้น อีกทั้งยังทำให้การใช้บัตรเครดิตเกิดประโยชน์ที่สุด และลดภาระทางการเงินได้อีกด้วย

2. เช็กความสามารถในการชำระค่าบัตรเครดิต

สิ่งสำคัญในการตัดสินใจทำบัตรเครดิตคงไม่พ้นการเช็กความสามารถในการชำระหนี้บัตรเครดิต ก่อนจะทำการเปรียบเทียบบัตรเครดิตไหนที่เหมาะกับเรา เราต้องทำการพิจารณาถึงความพร้อมในการจ่ายค่าบัตรเครดิตแต่ละเดือนก่อน โดยประเมินจากรายได้และรายจ่ายที่ผ่านมาในอดีตจนถึงปัจจุบัน รวมถึงให้ดูความเสี่ยงและเหตุฉุกเฉินด้านการเงินในอนาคตจะเป็นอย่างไร อีกทั้งให้ดูค่าใช้จ่ายประจำไม่ว่าจะเป็นค่าผ่อนบ้าน ค่าผ่อนรถ หรืออื่น ๆ ที่ถ้าหากเรามีบัตรเครดิตเราจะสามารถใช้จ่ายได้คุ้มหรือไม่ ซึ่งเราไม่ควรมีรายจ่ายที่รวมค่าบัตรเครดิตแล้วเกิน 50% ของรายได้ทั้งหมด

3. เลือกบัตรที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์

เมื่อเราทำการสำรวจพฤติกรรมการใช้จ่ายของตัวเองแล้วจะทำให้เราสามารถเปรียบเทียบบัตรเครดิตต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้น ว่าบัตรเครดิตแบบไหนที่จะตอบโจทย์กับไลฟ์สไตล์ตัวเองได้มากที่สุด

4. เช็กค่าธรรมเนียมรายปีและดอกเบี้ยบัตรเครดิต

เมื่อเปรียบเทียบบัตรเครดิตแล้วควรหาข้อมูลเปรียบเทียบค่าธรรมเนียมบัตรเครดิตด้วยเช่นกัน โดยค่าธรรมเนียมจะขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละธนาคาร ซึ่งมักจะมีอยู่ 2 ประเภท ได้แก่ ค่าธรรมเนียมแรกเข้าและค่าธรรมเนียมรายปี หากเราสะดวกจ่ายค่าธรรมเนียมแบบไหนก็ต้องดูตามข้อกำหนดและเงื่อนไขของธนาคารนั้น ๆ ส่วนเรื่องอัตราดอกเบี้ยส่วนใหญ่จะอยู่ที่ 16-18% ต่อปี เมื่อมียอดค้างชำระ แต่ถ้าหากสามารถชำระหนี้เต็มจำนวนตามระยะเวลาที่กำหนดก็ไม่ต้องกังวลเรื่องดอกเบี้ย

5. สิทธิพิเศษอื่น ๆ 

นอกจากสิทธิประโยชน์ที่ได้เห็นจากการเปรียบเทียบบัตรเครดิตแล้ว บัตรเครดิตนั้นอาจมีสิทธิพิเศษอื่น ๆ ที่จะได้รับ เช่น ได้รับบริการจอดรถฟรีในห้างสรรพสินค้าที่ร่วมรายการ สะสมแต้มและของกำนัล หรือได้รับส่วนลดเมื่อซื้อสินค้าในร้านค้าหรือห้างสรรพสินค้าที่ร่วมรายการ แนะนำให้เลือกบัตรที่ได้รับสิทธิประโยชน์ที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตเรามากที่สุด เพื่อให้เกิดประโยชน์และความคุ้มค่า


เปรียบเทียบบัตรเครดิตกับโปรสุดคุ้มจาก KTC 

เพื่อเปรียบเทียบบัตรเครดิตที่จะตอบโจทย์การใช้งานของคุณได้มากที่สุด วันนี้เราจึงรวบรวมบัตรเครดิตต่าง ๆ ของทาง KTC ว่าแต่ละใบมีสิทธิประโยชน์พิเศษอย่างไรบ้าง ดังนี้

1. KTC VISA PLATINUM

KTC VISA PLATINUM

สิทธิประโยชน์พิเศษ : ทุก 25 บาท ที่ใช้จ่ายผ่านบัตร รับ 1 คะแนนสะสม เพื่อแลกสินค้า / บริการกับร้านค้าที่ร่วมรายการ

รายได้ขั้นต่ำต่อเดือน : 15,000 บาท/เดือน

ระยะเวลาสูงสุดที่ปลอดดอกเบี้ย : 45 วัน

ค่าธรรมเนียมบัตรหลัก : ไม่มีค่าธรรมเนียมแรกเข้าและรายปี

2. KTC CASH BACK VISA PLATINUM

KTC CASH BACK VISA PLATINUM

สิทธิประโยชน์พิเศษ : รับเงินคืนสูงสุด 0.8% ทุกครั้งที่ใช้จ่าย

รายได้ขั้นต่ำต่อเดือน : 15,000 บาท/เดือน

ระยะเวลาสูงสุดที่ปลอดดอกเบี้ย : 45 วัน 

ค่าธรรมเนียมบัตรหลัก : ไม่มีค่าธรรมเนียมแรกเข้าและรายปี 

3. KTC PLATINUM MASTERCARD

KTC PLATINUM MASTERCARD

สิทธิประโยชน์พิเศษ : ประกันภัยความคุ้มครองการซื้อสินค้าออนไลน์, ส่วนลด 400 บาท เมื่อช้อปผ่านพันธมิตรออนไลน์ที่ร่วมรายการ

รายได้ขั้นต่ำต่อเดือน : 15,000 บาท/เดือน

ระยะเวลาสูงสุดที่ปลอดดอกเบี้ย : 45 วัน 

ค่าธรรมเนียมบัตรหลัก : ไม่มีค่าธรรมเนียมแรกเข้าและรายปี 

4. KTC UNIONPAY PLATINUM

KTC UNIONPAY PLATINUM

สิทธิประโยชน์พิเศษ : รับคะแนน KTC FOREVER x2 (คะแนนสะสม) ทุกการใช้จ่ายผ่านบัตรฯ ที่จีน ฮ่องกง มาเก๊า และไต้หวัน เป็นสกุลเงินท้องถิ่น CNY, HKD, MOP, TWD

รายได้ขั้นต่ำต่อเดือน : 15,000 บาท/เดือน

ระยะเวลาสูงสุดที่ปลอดดอกเบี้ย : 45 วัน 

ค่าธรรมเนียมบัตรหลัก : ไม่มีค่าธรรมเนียมแรกเข้าและรายปี 

5. KTC – BIG CAMERA PLATINUM MASTERCARD

KTC BIG CAMERA PLATINUM MASTERCARD

สิทธิประโยชน์พิเศษ : รับส่วนลดพิเศษจาก Big Camera ทุกสาขา

รายได้ขั้นต่ำต่อเดือน : 15,000 บาท/เดือน

ระยะเวลาสูงสุดที่ปลอดดอกเบี้ย : 45 วัน 

ค่าธรรมเนียมบัตรหลัก : ไม่มีค่าธรรมเนียมแรกเข้าและรายปี 

6. KTC X – AGODA WORLD REWARDS MASTERCARD

KTC X - AGODA WORLD REWARDS MASTERCARD

สิทธิประโยชน์พิเศษ : ใช้งานบัตรผ่าน AGODAรับคะแนนสะสมถึง 400 คะแนนและยังรับสิทธิ์ AGODA VIP PLATINUM รับส่วนลดเพิ่มสูงสุด 25% สามารถใช้บริการห้องรับรองพิเศษเมื่อเดินทางระหว่างประเทศกับสายการบินต่าง ๆ 

รายได้ขั้นต่ำต่อเดือน : 50,000 บาท/เดือน

ระยะเวลาสูงสุดที่ปลอดดอกเบี้ย : 45 วัน 

ค่าธรรมเนียมบัตรหลัก : ไม่มีค่าธรรมเนียมแรกเข้าและรายปี 

7. KTC – VEJTHANI HOSPITAL VISA SIGNATURE

KTC - VEJTHANI HOSPITAL VISA SIGNATURE

สิทธิประโยชน์พิเศษ : ส่วนลดที่โรงพยาบาลเวชธานีสูงสุดถึง 50% รวมถึงสิทธิประโยชน์อื่น ๆ ที่โรงพยาบาล

รายได้ขั้นต่ำต่อเดือน : 50,000 บาท/เดือน

ระยะเวลาสูงสุดที่ปลอดดอกเบี้ย : 45 วัน 

ค่าธรรมเนียมบัตรหลัก : ไม่มีค่าธรรมเนียมแรกเข้าและรายปี 

8. KTC VISA SIGNATURE

KTC VISA SIGNATURE

สิทธิประโยชน์พิเศษ : ฟรี บริการห้องรับรอง Royal Silk Lounge ที่สนามบินสุวรรณภูมิ 2 ครั้ง/ปี

รายได้ขั้นต่ำต่อเดือน : 50,000 บาท/เดือน

ระยะเวลาสูงสุดที่ปลอดดอกเบี้ย : 45 วัน 

ค่าธรรมเนียมบัตรหลัก : ไม่มีค่าธรรมเนียมแรกเข้าและรายปี 


เคล็ด(ไม่)ลับ วิธีสมัครบัตรเครดิตให้ผ่าน

ปัจจุบันจะเห็นคนเริ่มสนใจอยากสมัครบัตรเครดิตเพิ่มขึ้น เนื่องด้วยสังคมที่เข้าสู่ยุคสังคมไร้เงินสด อีกทั้งบัตรเครดิตยังช่วยให้เกิดสภาพคล่องทางการเงิน ดังนั้นเรามารู้จักเคล็ด(ไม่)ลับสำหรับวิธีสมัครบัตรเครดิตที่จะช่วยให้อนุมัติเร็ว และไม่ต้องรอนาน 

  • ตรวจสอบคุณสมบัติที่สามารถสมัครบัตรเครดิตที่เราต้องการ โดยคุณสมบัติต่าง ๆ เช่น ฐานเงินเดือน ระยะเวลาทำงานตามที่ธนาคารต่าง ๆ กำหนดไว้ และข้อมูลติดต่อที่ง่ายและชัดเจน ซึ่งคุณสมบัติจะขึ้นอยู่แต่ละธนาคารเป็นผู้กำหนด
  • ประวัติธุรกรรมทางการเงินที่ดี ไม่เคยค้างชำระหรือผิดนัดชำระ มีการชำระหนี้อย่างสม่ำเสมอ เท่านี้ก็สามารถสร้างประวัติธุรกรรมทางการเงินที่ดีได้
  • เตรียมเอกสารให้ครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็น บัตรประชาชน ทะเบียนบ้าน หนังสือรับรองเงินเดือนหรือสลิปเงินเดือน และ statement

ข้อสรุป

จะเห็นได้ว่า การเปรียบเทียบบัตรเครดิตจะช่วยให้เราสามารถเลือกสมัครบัตรเครดิตที่เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์และสามารถตัดสินใจได้ง่ายยิ่งขึ้นเมื่อเปรียบเทียบสิทธิประโยชน์บัตรเครดิตต่าง ๆ ซึ่งการเลือกบัตรเครดิตที่เหมาะกับการใช้งานของเราจะช่วยให้เราเกิดการใช้บัตรเครดิตได้อย่างคุ้มค่าและยังช่วยลดภาระการใช้จ่ายได้เป็นอย่างดีอีกด้วย


Similar Posts