หลอดเลือดแดงใหญ่โป่งพอง 

หลอดเลือดแดงใหญ่โป่งพอง โรคร้ายที่ไม่ควรเพิกเฉย

หลอดเลือดแดงใหญ่โป่งพอง 

ปัจจุบันมีโรคร้ายอยู่หลายโรคที่คอยคร่าชีวิตของคนไทย และแน่นอนว่าโรคหลอดเลือดแดงใหญ่โป่งพองก็เป็นหนึ่งในโรคร้ายที่เราจะมากล่าวถึงในบทความนี้ เพราะเป็นโรคร้ายที่ไม่แสดงอาการล่วงหน้า แต่จะเป็นทันที แบบรวดเร็ว เจ็บปวดรุนแรง และเสียชีวิตเร็ว คนป่วยประมาณ 25% จะเสียชีวิตภายใน 24 ชม.แรกหากไม่ได้รับการวินิจฉัยและรักษาได้ทันท่วงที


ความสำคัญของหลอดเลือดแดงใหญ่ที่มีต่อร่างกายเรา  

ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักเกี่ยวกับหลอดเลือดแดงใหญ่ก่อนว่าคืออะไร มีความสำคัญเช่นไรต่อร่างกายเรา แน่นอนว่าหลอดเลือดแดงใหญ่คือเส้นเลือดหลักที่มีความสำคัญของร่างกายเรา คอยทำหน้าคอยหล่อเลี้ยงทุก ๆ  อวัยวะที่สำคัญของร่างกาย เช่น หัวใจ สมอง ประสาทไขสันหลัง แขน ขา เป็นต้น 

หลอดเลือดแดงใหญ่มีหน้าที่หลักในการช่วยลำเลียงเลือดแดงจากบริเวณขั้วหัวใจไปที่ยอดอก แล้วส่งไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย มีการส่งต่อไปด้านหลัง ผ่านกะบังลมไปยังช่องท้อง แล้วแยกไปตามแขนงหลอดเลือดซ้ายขวาตรงไปยังขาทั้ง 2 ข้าง และอวัยวะในอุ้งเชิงกราน 

ดังนั้นหากเกิดเส้นเลือดหัวใจโป่งพองย่อมส่งผลเสียแก่อวัยวะต่าง ๆ ในร่างกาย และอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้ เพราะความผิดปกติที่เกิดขึ้นตรงส่วนใดส่วนหนึ่งของหลอดเลือดแดงใหญ่จนมีขนาดโตขึ้นกว่า 5-5.5 ซม. หรือมีขนาดที่โตเร็วกว่า 3-5 มม. ใน 1 ปี จะทำให้ผนังของหลอดเลือดแดงบางลง โอกาสปริแตกก็มากขึ้นซึ่งจะสัมพันธ์กับขนาดที่โตขึ้นเช่นกันจนส่งส่งผลถึงชีวิตหากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที


ปัจจัยที่ส่งผลให้เกิดโรคหลอดเลือดแดงใหญ่โป่งพอง  

ปัจจัยที่ส่งผลต่อหลอดเลือดแดงใหญ่โป่งพอง 

การที่จะเกิดภาวะหลอดเลือดแดงใหญ่โป่งพองไม่ว่าจะเป็นบริเวณช่องอก หรือ ช่องท้องได้นั้นอาจเกิดได้จากหลาย ๆ ปัจจัยดังต่อไปนี้

  • ผนังหลอดเลือดแดงใหญ่เสื่อมสภาพที่มาจากสาเหตุ
  • การสูบบุหรี่
  • ความดันโลหิตสูง
  • ไขมันในเลือดสูง
  • มีประวัติคนในครอบครัวเป็นหลอดเลือดแดงใหญ่โป่งพอง
  • อายุที่เพิ่มขึ้น
  • ความอ้วน
  • เป็นโรคเนื้อเยื่อผิดปกติตั้งแต่เกิด ทำให้เนื้อเยื่อผนังหลอดเลือดแดงใหญ่อ่อนแอง่ายต่อการโป่งพอง
  • เป็นโรคที่ทำให้เกิดการอักเสบของผนังหลอดเลือดแดงใหญ่ เช่น
  • โรคแพ้ภูมิตัวเองจนทำให้เกิดการอักเสบ
  • โรคติดเชื้อ เช่น โรควัณโรค โรคซิฟิลิส เป็นต้น
  • โรคถุงลมโป่งพอง
  • อุบัติเหตุ
  • การกระแทกรุนแรงอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ผนังหลอดเลือดบางผิดปกติ และโป่งพองได้

ใครบ้างที่มีความเสี่ยงเป็นโรคหลอดเลือดแดงใหญ่โป่งพอง  

สำหรับโรคหลอดเลือดแดงใหญ่โป่งพองนั้น กลุ่มคนที่มีความเสี่ยงสูงว่าจะเป็นมีดังนี้

  • คนที่มีความดันโลหิตสูง 
  • คนที่เป็นโรคเบาหวาน
  • คนที่เป็นโรคหัวใจ หรือมีภาวะหลอดเลือดแดงแข็ง
  • คนที่ครอบครัวมีประวัติเป็นเส้นเลือดโป่งพอง
  • คนสูบบุหรี่จัด
  • คนที่มีภาวะถุงลมโป่งพอง
  • คนที่มีความผิดปกติทางพันธุกรรมบางชนิด เช่น กลุ่มอาการ Marfan Syndrome ที่มีความผิดปกติที่เนื้อเยื่อ ทำให้เนื้อเยื่ออ่อนแอ

อาการที่แสดงถึงโรคหลอดเลือดแดงใหญ่โป่งพอง  

เราควรเตรียมพร้อมระมัดระวังในเรื่องสุขภาพร่างกายอยู่ตลอดเวลาเพราะว่าโรคหลอดเลือดใหญ่โป่งพอง (Aortic Aneurysm) เป็นโรคที่จะไม่แสดงอาการให้รู้ตัวล่วงหน้า ยกเว้นก็แต่เมื่อมีสัญญาณอันตรายดังต่อไปนี้เกิดขึ้นก็หมายถึงมีโอกาสสูงที่จะเป็น หลอดเลือดโป่งพองที่มีการปริแตกแล้ว ส่วนความร้ายแรงก็ขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่เกิดเส้นเลือดโป่งพองไปกดเบียดอวัยวะข้างเคียง จึงควรรีบเข้าพบแพทย์เฉพาะทางทันที

  • ปวดหัวรุนแรง ปวดเฉียบพลันที่ท้อง หน้าอก และ/หรือท้อง
  • เหงื่อออก ใจสั่น คลื่นไส้ อาเจียน ไอเป็นเลือด
  • แน่นหน้าอก เป็นลมหมดสติ
  • หายใจลำบาก 
  • กลืนลำบาก เสียงแหบ

หลอดเลือดแดงใหญ่โป่งพองกับแนวทางในการรักษา 

แนวทางรักษาหลอดเลือดแดงใหญ่โป่งพอง 

เพื่อลดโอกาสเสี่ยงที่จะเป็นโรคหลอดเลือดแดงใหญ่โป่งพอง เราควรดูแลรักษาสุขภาพพร้อมป้องกันไว้ก่อนด้วยการตรวจสุขภาพเป็นประจำทุกปี เช่น เอกซเรย์ปอด อัลตราซาวด์ช่องท้อง ตรวจการทำงานของตับ ไต และหัวใจ โดยเฉพาะเมื่อมีอายุ 65 ปีขึ้นไป หรือร่างกายมีปัจจัยเสี่ยง

ส่วนแนวทางในการรักษาหลอดเลือดโป่งพอง แพทย์จะทำการวินิจฉัย สอบประวัติพร้อมตรวจร่างกาย แล้วจึงจะสามารถพิจารณาได้ว่ามีอาการของเส้นเลือดโป่งพองในระยะไหน 

  • กรณีที่อยู่ในระยะไม่ร้ายแรง ไม่อันตราย มีความเสี่ยงที่หลอดเลือดโป่งพองหรือปริแตกน้อย แพทย์จะทำการตรวจอาการเป็นระยะ ๆ เพื่อความปลอดภัย พร้อมแนะนำถึงวิธีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมประจำวัน เช่น งดสูบบุหรี่, คอยควบคุมความดันโลหิดด้วยการกินยา, หลีกเลี่ยงการเบ่งถ่ายแรง ๆ หรือ ยกของหนัก, หลีกเลี่ยงภาวะตั้งครรภ์ เป็นต้น

นอกจากนี้ควรใช้ชีวิตให้มีความสุข ไม่เครียด ออกกำลังกายสม่ำเสมอ พร้อมเลี่ยงอาหารที่เค็มจัด หวานจัด ของทอด ของมัน เป็นต้น

  • สำหรับกรณีที่หลอดเลือดแดงใหญ่โป่งพองจนมีความเสี่ยงที่จะปริแตกจนเพิ่มโอกาสในการเสียชีวิต แพทย์อาจจำเป็นต้องเลือกทำการรักษาด้วยการผ่าตัด ซึ่งวิธีการผ่าตัดก็จะขึ้นอยู่กับตำแหน่ง ลักษณะของหลอดเลือดโป่งพอง และร่างกายของผู้ป่วยด้วย

วิธีการผ่าตัดแบบมาตรฐาน คือการผ่าตัดด้วยการเปิดผ่านทางช่องอก หรือช่องท้อง (Open Surgery) แล้วทำการใส่หลอดเลือดเทียมทดแทน

  • อีกหนึ่งวิธีผ่าตัดที่เป็นแบบแผลเล็กด้วยการสอดใส่หลอดเลือดเทียมชนิดหุ้มด้วยขดลวด (Endovascular Aortic Aneurysm Repair : EVAR) ผ่านทางหลอดเลือดแดงที่ขา เพื่อให้เลือดวิ่งผ่านหลอดเลือดนี้แทนโดยไม่จำเป็นต้องวิ่งผ่านบริเวณหลอดเลือดแดงที่โป่งพองอีกต่อไป

วิธีนี้หลอดเลือดเทียมจะยึดเกาะกับผนังหลอดเลือดแดงใหญ่ด้วยแรงดันออกของขดลวด ทำให้หลอดเลือดที่โป่งพองจะค่อย ๆ ฝ่อหรือคงขนาดเดิม


โรคหลอดเลือดแดงใหญ่โป่งพองที่รักษาได้ หากรู้และรักษาทันเวลา 

ปัจจุบันโรคหลอดเลือดแดงใหญ่โป่งพองเป็นโรคทางหลอดเลือดชนิดหนึ่งที่พบได้บ่อย มีโอกาสเสียชีวิตสูงแต่ไม่น่ากลัว หากมีความเข้าใจถึงลักษณะอาการของโรค และความสำคัญของการตรวจสุขภาพประจำปี เพื่อที่จะได้รับการตรวจวินิจฉัยจากทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญบวกกับเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่มีวิธีการรักษาที่ทันสมัยในปัจจุบันนี้


Similar Posts