10 วิธีรักษาสิวผดเร่งด่วน บอกลาปัญหาผดขึ้นหน้าผาก
สิวผดปัญหากวนใจใครหลาย ๆ คน เป็นแล้วเป็นอีก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่ออากาศร้อน แถมสถานการณ์ในปัจจุบันก็ยังต้องสวมใส่หน้ากากอนามัยอยู่ตลอด ทำอย่างไรก็ไม่หายสักที ในบทความนี้หมอจะพามารู้จักกับสาเหตุที่แท้จริงของสิวผด รวมถึงบอกเคล็ดลับวิธีรักษาสิวผดอย่างไรให้ได้ประสิทธิภาพที่สุดครับ
สิวผด (Acne Aestivalis)
สิวผด (Acne Aestivalis) คือผดผื่นเม็ดเล็ก ๆ หรือตุ่มนูนที่เกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก กระจายตัวเป็นวงกว้างบริเวณผิวหน้าหรือลำตัว สิวผดมีทั้งแบบสิวเม็ดเล็ก ๆ ไม่มีหัว และตุ่มน้ำใส ๆ เมื่อนำมือไปสัมผัสจะรู้สึกว่าผิวหน้าไม่เรียบเนียน โดยส่วนมากสิวผดเกิดจากการถูกกระตุ้นจากปัจจัยภายนอก เช่น สภาพแวดล้อม เชื้อโรค เชื้อแบคทีเรีย นอกจากนี้ยังสามารถเกิดจากต่อมเหงื่อที่ถูกอุดตัน หรือแพ้เหงื่อตัวเองได้เช่นกันครับ
สิวผดมีลักษณะอย่างไร
สิวผดจะมีลักษณะเป็นเม็ดผื่นเม็ดเล็ก ๆ กระจายอยู่ทั่วผิวหน้าครับ เป็นสิวไม่มีหัวและไม่สามารถบีบออกได้ มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 1-2 มิลลิเมตร หากไม่ดูแลรักษาให้ถูกวิธีก็สามารถกลับมาเป็นซ้ำได้เรื่อย ๆ นอกจากนี้สิวผดยังสามารถเกิดร่วมกับสิวชนิดอื่น ๆ ได้ด้วยครับ
สิวผดเกิดจาก
สิวผดเกิดจากอาการแพ้ของผิวหนัง โดยมีต้นเหตุมาจากปัจจัยเหล่านี้
- สภาพอากาศร้อน: สิวผดมักถูกกระตุ้นด้วยแสง UVA ทำให้เกิดเป็นผดเม็ดเล็ก ๆ โดยปกติแล้วผิวหน้าของเราจะมีเชื้อ P.ovale อาศัยอยู่ครับ เมื่อใดก็ตามที่ผิวเสียสมดุลจะทำให้เชื้อเกิดการเจริญเติบโตได้ดี ทำให้เกิดสิวผดขึ้นเป็นจำนวนมาก ซึ่งสภาพอากาศร้อนชื้น และเหงื่อออกเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ผิวเสียสมดุลครับ
- สิ่งสกปรก ฝุ่น: สภาพอากาศที่เต็มไปด้วยฝุ่นละออง ฝุ่นควัน มลพิษต่าง ๆ สามารถทำให้เกิดการอุดตันของรูขุมขน จนทำให้เกิดสิวผดบนใบหน้าได้
- การระคายเคืองของผิวหนัง: เครื่องสำอาง หรือสกินแคร์ที่สัมผัสกับผิว หากมีส่วนผสมที่ไม่เหมาะสม สามารถทำให้ผิวของเราเกิดการแพ้ และเป็นสาเหตุของสิวผดได้ รวมถึงการล้างออกไม่สะอาด อาจทำให้เกิดการอุดตันของส่วนผสมต่าง ๆ ทำให้เกิดสิวผดได้เช่นกันครับ
- พฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวัน: เช่น การล้างหน้าบ่อยเกินไปจนทำให้ผิวเสียสมดุล การสัมผัสใบหน้าบ่อย ๆ โดยไม่ได้ล้างมือ รวมถึงความเครียด สิ่งเหล่านี้สามารถทำให้เกิดสิวผดขึ้นได้
สิวผดขึ้นบริเวณไหนได้บ้าง
โดยส่วนมากสิวผดมักเกิดขึ้นบริเวณบนใบหน้า แต่ก็สามารถเกิดขึ้นตามร่างกายได้ด้วยเช่นกันครับ โดยบริเวณที่สิวผดมักเกิดขึ้นมีดังนี้
- สิวผดที่หน้าผาก
สิวผดขึ้นหน้าผากส่วนมากมักเกิดจากการที่หน้าผากโดนแสงแดด ฝุ่นควัน สิ่งสกปรก รวมไปถึงสิ่งต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน เช่น การไว้ผมหน้าม้า การสวมหมวก การเปลี่ยนแชมพูสระผม โฟมล้างหน้า เป็นต้น นอกจากนี้สิวผดหน้าผากยังเกิดจากพฤติกรรมของเราอีกด้วย เช่น การใช้มือสัมผัสหน้าผาก
สำหรับการรักษาสิวผดที่หน้าผาก ควรหลีกเลี่ยงการโดนแสงแดดโดยตรง หรือทาครีมกันแดดไว้เสมอ และหลีกเลี่ยงการสัมผัสบริเวณหน้าผาก เพื่อไม่ให้เกิดการสะสมของสิ่งสกปรก รวมถึงป้องกันการเป็นสิวผดที่หน้าผาก
- สิวผดที่แก้ม
สิวผดที่แก้มเกิดจากการระคายเคือง หรือการเสียดสีจากการสวมใส่หน้ากากอนามัย รวมถึงการโดนแสงแดด UVA ทำให้เกิดสิวผด สิวอุดตันขึ้นที่แก้ม นอกจากปัจจัยเหล่านี้แล้วการแต่งหน้าก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุครับที่ทำให้เกิดสิวผดที่แก้ม
- สิวผดที่จมูก:
สิวผดเล็ก ๆ ที่จมูก หรือข้างจมูกโดยส่วนใหญ่แล้วมักเกิดจากการอุดตันของต่อมไขมันในรูขุมขน เมื่อเกิดการหมักหมมกับสิ่งสกปรกต่าง ๆ ก็ทำให้เกิดสิวผดที่จมูกได้
- สิวผดที่คาง
สิวผดที่คางมักเกิดมาจากความมันส่วนเกินบนใบหน้าผสมกับสิ่งสกปรก ทำให้เกิดการอุดตันกลายเป็นสิวผดขึ้น รวมถึงความอับชื้นจากการสวมใส่หน้ากากอนามัยก็เป็นอีกหนึ่งแหล่งสะสมของเชื้อโรค สาเหตุของการเกิดสิวผดที่คางได้ครับ
- สิวผดที่หลัง
สิวผดที่หลังเกิดจากสิ่งสกปรกที่สะสมอยู่ในเสื้อผ้า เหงื่อ รวมกับแบคทีเรีย ความมัน สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้สามารถทำให้เกิดสิวที่หลังขึ้นได้
ลักษณะของสิวผดที่ควรพบแพทย์
หากเป็นสิวผดที่เกิดมาจากพฤติกรรมการใช้ชีวิต หรือสิ่งสกปรก สภาพอากาศ ก็สามารถรักษาสิวผดให้หายได้เอง โดยการหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้ผิวเกิดการแพ้ หรือระคายเคือง แต่ถ้าหากเป็นสิวผดที่เกิดจากเชื้อรา มีอาการคันร่วมด้วยจนทำให้รูขุมขนอักเสบ รักษากี่ครั้งก็ไม่หาย แนะนำให้เข้าพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยหาสาเหตุ และวางแผนรักษาอย่างถูกต้องต่อไป
10 วิธีรักษาสิวผดอย่างไร ให้ได้ผล
สิวผดเป็นสิวชนิดที่รักษาได้ง่าย สามารถรักษาได้ด้วยตนเอง ไม่ว่าจะเป็นการใช้ยารักษาสิวผด หรือปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวัน เป็นต้น โดยมี 10 วิธีการรักษาสิวผดด้วยตนเอง ดังนี้
1. หลีกเลี่ยงการเผชิญแสงแดด และอากาศร้อน
แสงแดดและรังสี UVA UVB เป็นปัจจัยที่สำคัญที่ทำให้เกิดสิวผดขึ้น ก่อนออกแดดจึงแนะนำให้ทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF อย่างน้อย 50 PA+++ เพื่อป้องกันผิวจากแสงแดด นอกจากนี้สภาพอากาศร้อนก็สามารถทำให้เกิดสิวผดได้เช่นกัน เนื่องจากต่อมเหงื่อไม่สามารถระบายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เกิดการอุดตัน เกิดเป็นตุ่มเล็ก ๆ หรือสิวผดขึ้น
2. ใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวที่อ่อนโยน
การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้า และผิวกายก็เป็นสิ่งสำคัญที่อาจก่อให้เกิดสิวผด ดังนั้นจึงควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีความอ่อนโยน เหมาะกับสภาพผิว ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง เช่น แอลกอฮอล์ น้ำหอม เพราะอาจทำให้ผิวแห้งลอกได้
3. ใช้ยารักษาสิวผด
การรักษา สิวผดเร่งด่วนหลาย ๆ คนมักเลือกใช้ยาทาสิวเป็นอันดับแรก เพราะเป็นวิธีที่สะดวก และง่าย โดยยาทาสิวที่ช่วยรักษาสิวผดมักมีสารบางชนิดที่เข้าไปช่วยบรรเทาอาการสิวผด ดังนี้
- ยารักษาสิวที่มีส่วนผสมของกลุ่มอนุพันธ์วิตามิน เอ: ยารักษาสิวประเภทนี้จะช่วยลดการอุดตันของรูขุมขน และผลัดเซลล์ผิว สามารถใช้รักษาสิวอุดตันสิวผดได้ แต่อาจมีผลข้างเคียงคือผิวหน้าแห้ง ลอกเป็นขุย ผิวบาง เป็นต้น ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนใช้ยาครับ
- ยารักษาสิวผดที่มีส่วนผสมของ Ketoconazole: ยาชนิดนี้เป็นยารักษาเชื้อรา สามารถยับยั้งเชื้อรา P.ovale ต้นเหตุที่ทำให้เกิดสิวผดได้ หากต้องการใช้ยาประเภทนี้ควรอยู่ภายใต้คำแนะนำของแพทย์เท่านั้น
- ยารักษาสิวผดที่มีส่วนผสมของ Adapalene: ยา Adapalene เป็นยาในกลุ่ม Retinoids โดยวิธีการใช้คือทาบาง ๆ ก่อนนอน เพื่อให้สิวผดมีหัวผุดออกมาก่อนแล้วค่อยรักษาภายหลัง
4. ล้างหน้าให้ถูกวิธี
การล้างหน้าให้ถูกวิธีนั้น ควรล้างวันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น ไม่ควรล้างบ่อยเกินไป รวมถึงหลีกเลี่ยงการขัด ถูแรง ๆ บริเวณใบหน้า และควรเลือกใช้โฟมล้างหน้าที่อ่อนโยน
5. พักผ่อนให้เพียงพอ
รู้หรือไม่ครับว่า หากเรานอนไม่พอ หรือมีความเครียดสะสม สามารถเป็นต้นเหตุของการเกิดสิวผดได้ครับ เนื่องจากต่อมไขมันจะทำงานหนัก ผลิตน้ำมันออกมามากเกินไปจนทำให้เกิดการอุดตันของรูขุมขนได้ ดังนั้นจึงควรนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ และทำจิตใจให้ผ่อนคลายอยู่เสมอ
6. รับประทานอาหารที่มีประโยชน์
วิธีลดสิวผดด้วยการรับประทานอาหารที่มีแร่ธาตุ วิตามินต่าง ๆ จำพวก ผัก ผลไม้ จะช่วยเสริมสร้างให้ผิวแข็งแรง ลดปัญหาเรื่องสิวผด สิวอุดตัน พร้อมยังช่วยบำรุงผิวให้สุขภาพดีขึ้นอีกด้วย
7. หลีกเลี่ยงการสัมผัสใบหน้า
มือของเราถือได้ว่าเป็นแหล่งสะสมของแบคทีเรีย และเชื้อโรคต่าง ๆ หากเราไม่ล้างมือให้สะอาด ยังคงเหลือสิ่งสกปรกไว้ตามส่วนต่าง ๆ ของนิ้วมือ เช่น ปลายนิ้ว ซอกนิ้ว หลังมือ เมื่อนำมือมาสัมผัสกับหน้าก็อาจทำให้สิ่งสกปรกสะสม ตกค้างอยู่บนผิวหน้าของเราได้ สาเหตุหนึ่งของการเกิดสิวผด
8. เติมเต็มให้ผิวชุ่มชื้นอยู่เสมอ
ผิวที่ขาดความชุ่มชื้นจะทำให้ผิวของเราขาดความแข็งแรง ดังนั้นหนึ่งในวิธีรักษาสิวผดคือ เติมเต็มความชุ่มชื้นให้ผิวอยู่เสมอ โดยการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยรักษาความชุ่มชื้น บำรุงผิว รวมถึงดื่มน้ำสะอาดให้มาก ๆ เพราะผิวที่แข็งแรงจะช่วยป้องกันปัญหาผิวแห้ง และปัจจัยภายนอกที่เข้ามาทำร้ายผิว
9. หลีกเลี่ยงสิ่งที่ก่อให้เกิดการแพ้
การหลีกเลี่ยงสิ่งที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองผิว เช่น เครื่องสำอาง ฝุ่น มลภาวะ ควัน สิ่งสกปรกต่าง ๆ จะช่วยลดการเกิดสิวผด เพราะสิ่งเหล่านี้เป็นต้นเหตุที่ก่อให้เกิดการอุดตันในรูขุมขน หากหลีกเลี่ยงปัจจัยกระตุ้นเหล่านี้ก็จะช่วยแก้ปัญหาเรื่องสิวผด สิวอุดตันได้
10. ปรึกษาแพทย์ผิวหนัง
วิธีสุดท้ายเป็นวิธีที่จะช่วยรักษา สิวผดได้ดีที่สุด นั่นก็คือ การพบแพทย์ผิวหนังนั่นเองครับ การพบแพทย์ผิวหนังจะช่วยแก้ปัญหาสิวผดได้ในระยะยาว เนื่องจากแพทย์จะช่วยหาต้นเหตุของการเกิดสิวผด ซักประวัติและพฤติกรรมที่เสี่ยงก่อให้เกิดสิวผด รวมถึงช่วยวางแผนรักษาสิวผดได้อย่างตรงจุดนั่นเอง
แนวทางการป้องกันไม่ให้หน้าเป็นสิวผด
- หลีกเลี่ยงการโดนแสงแดดโดยตรง หรือควรทาครีมกันแดดทุกครั้งที่ออกแดด
- หลีกเลี่ยงการใช้มือสัมผัสผิวหน้าโดยตรง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมือสกปรก
- หลีกเลี่ยงเข้าไปในสถานที่ที่มีฝุ่นเยอะ หรือเผชิญกับมลภาวะต่าง ๆ เพื่อป้องกันการเกิดสิวผด
- ทำความสะอาดผิวหน้า และผิวกายวันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น
คำถามที่พบบ่อย
สิวผด กี่วันหาย
สิวผดกี่วันหาย? การรักษาสิวผดขึ้นอยู่กับอาการของแต่ละบุคคลครับ หากเป็นสิวผดที่เกิดจากการแพ้ทั่วไปก็จะใช้เวลาไม่นาน แต่ถ้าเกิดจากเชื้อราอาจจะต้องเข้าพบแพทย์เพื่อวางแผนการรักษาต่อไป อาจใช้เวลารักษาประมาณ 1-2 เดือนครับ
สิวผด ใช้อะไรดี
การรักษาสิวผดสามารถใช้ยาทาสิวผด ร่วมกับใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวได้ เช่น ยาทาสิวผดที่มีส่วนผสมของ Ketoconazole, Adapalene, กลุ่มอนุพันธ์วิตามิน เอ เป็นต้น
รักษาสิวผดเร่งด่วนได้อย่างไร
สำหรับผู้ที่ต้องการรักษาสิวผดแบบเร่งด่วน แนะนำให้เข้าปรึกษาแพทย์ผิวหนังเฉพาะทางครับ เพื่อให้แพทย์ช่วยหาสาเหตุการเกิดสิวผดที่แท้จริง ประเมินอาการ รวมถึงวางแผนรักษาสิวผดให้ตรงกับความรุนแรงของแต่ละบุคคลครับ
สิวผดต่างจากสิวอุดตันอย่างไร
สิวผด สิวอุดตันมองเผิน ๆ อาจคล้ายกัน แต่ความเป็นจริงแล้วสิวทั้งสองแบบมีความแตกต่างกัน โดยสิวผดจะมีลักษณะเป็นผดเม็ดเล็ก ๆ และมีอาการแสบคันร่วมด้วย ไม่สามารถกดออกได้ มักเห่อในช่วงที่มีอากาศร้อน ในขณะที่สิวอุดตันจะเป็นสิวที่ไม่มีอาการร่วมด้วย สามารถพบได้ทั่วใบหน้า กดออกได้ และเกิดได้ทุกสภาพอากาศไม่จำเป็นต้องมีอากาศร้อนครับ
ใส่แมสทำให้สิวผดขึ้นหรือไม่
การใส่แมสสามารถทำให้เกิดสิวผดได้ครับ โดยมีสาเหตุมาจากการเสียดสี ความชื้น และสิ่งสกปรกที่สะสมภายในหน้ากากอนามัย เช่น น้ำลาย เหงื่อ เครื่องสำอาง เป็น สิ่งเหล่านี้สามารถทำให้ผิวเกิดการอุดตัน จนเกิดเป็นสิวผดที่คาง สิวผดที่แก้มได้
ข้อสรุป
สิวผด (Acne aestivalis) คือสิวที่มักเกิดขึ้นในช่วงที่สภาพอากาศร้อน โดยเกิดจากการกระตุ้นของแสงแดด หรือต่อมไขมันผลิตน้ำมันออกมามากเกินไป จนทำให้เชื้อ P.ovale มีจำนวนมากขึ้น ดังนั้นการรักษา สิวผดจึงแนะนำให้หลีกเลี่ยงปัจจัยกระตุ้นอย่างเช่น แสงแดด ความร้อน รวมถึงสิ่งสกปรกต่าง ๆ ที่ลอยอยู่ในอากาศ จึงจะช่วยลดการเกิดสิวผดไม่ให้กลับมากวนใจอีก
