6 วิธีแก้หน้าหมองคล้ำที่ไม่ว่าใครก็สามารถทำได้
หน้าโทรมหมองคล้ำเป็นปัญหาที่ไม่ว่าใครก็คงจะไม่อยากให้เกิด โดยเฉพาะสาว ๆ ซึ่งอาการหน้าหมองคล้ำมักจะทำให้ดูหน้าโทรมหมองคล้ำ ไม่สดใส สีผิวหน้าหมองคล้ำ สีผิวไม่สม่ำเสมอ นอกจากนี้ยังเกิดริ้วรอย จุดด่างดำ และที่สำคัญทำให้ดูแก่กว่าวัยด้วยค่ะ ยิ่งพูดแบบนี้เชื่อว่าหลาย ๆ คนก็อยากจะหาวิธีแก้หน้าหมองคล้ำกันแล้วใช่ไหมล่ะคะ แต่ก่อนที่จะไปดูวิธีแก้หน้าหมองคล้ำ เรามาดูถึงสาเหตุและปัจจัยที่ทำให้หน้าหมองคล้ำกันก่อนค่ะ
ปัญหาหน้าหมองคล้ำ เกิดจากสาเหตุใดบ้าง
1. หน้าหมองคล้ำจากแดด
uva uvb คือปัจจัยหลักที่ก่อให้เกิดหน้าหมองคล้ำจากแดดค่ะ เนื่องจากเจ้า uva uvb คือรังสีอัลตราไวโอเลต ซึ่งเป็นองค์ประกอบในแสงอาทิตย์นั่นเอง โดย uvb จะมีพลังงานสูง และแผ่ความร้อนได้ ดังนั้นหากผิวเราโดนรังสี uvb เข้าก็จะเกิดอาการผิวไหม้แดด แสบ พุพองขึ้นได้ ส่วนเจ้า uva ถึงแม้ว่าจะไม่ทำให้เกิดอาการผิวไหม้แดด แต่เพราะสามารถทะลวงเข้าสู่ชั้นผิวได้ลึก จึงสามารถเข้าไปทำลายโครงสร้างผิวได้มากค่ะ แต่กลไกในร่างกายเมื่อได้รับรังสีอัลราไวโอเลตมากก็จะสร้างเม็ดสีเมลานินเพื่อปกป้องผิว แต่เจ้าเม็ดสีเมลานินจะทำให้สีผิวเข้มขึ้น นั่นจึงเป็นสาเหตุทหน้าหมองคล้ำนั่นเองค่ะ
2.ปัญหาผิวขาดน้ำ
ในร่างกายประกอบไปด้วยน้ำเป็นส่วนมาก แต่เนื่องด้วยปัจจุบันการใช้ชีวิตของผู้คนมักจะมีความเร่งรีบ ในบางครั้งก็อาจมีการละเลยตนเองไปบ้าง เช่น ไม่ค่อยดื่มน้ำ รับประทานอาหารไม่มีประโยชน์เพราะด้วยความรีบ ทำให้ร่างกายขาดน้ำ ขาดสารอาหารที่จะไปซ่อมแซมร่างกาย ก่อให้เกิดปัญหาทางผิวไม่ว่าจะ ผิวขาดน้ำ ผิวโทรมหมองคล้ำ ไม่สดใสค่ะ
3. สภาพอากาศและมลภาวะ
หากอยู่ในที่มีมลภาวะสูง เต็มไปด้วยฝุ่นควัน อยู่ในที่แดดจ้าบ่อย ๆ โดยที่ไม่ทาครีมกันแดดหรือบำรุงผิวเลยก็ส่งผลให้ผิวหน้าหมองคล้ำได้เช่นกันค่ะ นอกจากนี้การอยู่ในห้องแอร์นาน ๆ หรือในช่วงฤดูหนาว ซึ่งความชื้นในอากาศจะค่อนข้างต่ำ ส่งผลให้ผิวแห้ง แตก ลอก แพ้ง่ายขึ้นอีกด้วยค่ะ
4. อายุและช่วงวัย
ไม่มีสิ่งใดคงอยู่ได้ตลอดเวลา ผิวพรรณก็เช่นกัน เมื่ออายุมากขึ้นก็จะส่งผลถึงระบบต่าง ๆ ในร่างกายทำงานแย่ลง โครงสร้างผิวหนังเริ่มเสื่อมสภาพ การสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินทำได้น้อยลง การผลัดเซลล์ผิวก็เริ่มช้าลง นั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้หน้าหมองคล้ำ สีผิวไม่สม่ำเสมอ ผิวหนังเริ่มมีรอยเหี่ยวย่น หากผิวไม่ได้รับการป้องกันที่มากพอและถูกทำลายโดยสภาพแวดล้อมภายนอก เช่น แสงแดด ก็จะเกิดฝ้า กระ ขึ้นได้ง่ายค่ะ
5. สุขภาพจิตใจและความเครียด
ความเครียดเป็นบ่อนทำลายทุกสิ่ง เราจะเห็นได้ว่าโรคหลายโรคมักมีสาเหตุจากความเครียดทั้งนั้น กับผิวหนังก็เช่นเดียวกันค่ะ เนื่องจากความเครียดจะไปกระตุ้นให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนที่ชื่อว่า คอร์ติซอล (Cortisol) มีผลให้ต่อมไขมันใต้ผิวหนังผลิตไขมันออกมามากขึ้นกว่าปกติ ทำให้เกิดอาการหน้ามัน เป็นสิว ผิวเกิดจุดด่างดำ หน้าโทรมหมองคล้ำได้ค่ะ
6. พฤติกรรมการนอนดึก
โดยปกติแล้วร่างกายคนเราจะหลั่งฮอร์โมนที่ชื่อว่าเมลาโทนิน (Melatonin) ซึ่งฮอร์โมนตัวนี้จะส่งผลถึงการซ่อมแซมร่างกายค่ะ ในช่วงเวลาที่เจ้าเมลาโทนินหลั่งจะอยู่ในช่วงกลางคืนที่เราหลับสนิท โดยเฉพาะเวลาประมาณ 4 ทุ่มถึงตี 2 หากเรานอนดึก หรือนอนไม่เพียงพอจะส่งผลถึงการหลั่งฮอร์โมนเมลาโทนิน ทำให้ร่างกายไม่ได้รับการซ่อมแซมและฟื้นฟูเต็มที่ ผิวจึงดูโทรมหน้าหมองคล้ำ ไม่สดใส และดูแก่ก่อนวัยได้ค่ะ
7. การสูบบุหรี่
ในส่วนประกอบของบุหรี่มีสารเคมีหลาย ๆ ชนิดที่เป็นอันตรายต่อร่างกายและผิวเราค่ะ อย่างสารนิโคตินในบุหรี่จะส่งผลต่อระบบไหลเวียนโลหิต ทำให้เลือดไหลเวียนได้ไม่ดี การดูดซับวิตามินลดลง ซึ่งเป็นสาเหตุของผิวแห้งและหยาบกร้าน ส่วนควันบุหรี่ก็สามารถทำลายออกซิเจนในผิว ซึ่งทำให้ผิวหน้าหมองคล้ำ และดูแก่กว่าวัย เมื่อเทียบกับผู้ที่ไม่สูบบุหรี่ค่ะ
หน้าหมองคล้ำ ปัญหากวนใจใครหลายคน
เพราะการที่มีผิวกระจ่างใส ไร้ริ้วรอย เป็นสิ่งที่หลาย ๆ คนอยากจะมีและยิ่งเป็นสิ่งที่สร้างความมั่นใจให้กับหลาย ๆ คน แต่ปัญหาหน้าหมองคล้ำ สีผิวไม่สม่ำเสมอนั้น นอกจากจะเป็นปัญหาทางกายภาพ หรือก็คือปัญหาทางผิว เช่น ผิวดูแห้งกร้าน เป็นสิว ริ้วรอย จุดด่างดำ แลดูแก่ก่อนวัย แล้วยังส่งผลถึงปัญหาทางจิตใจอีกด้วย เมื่อใบหน้าหมองคล้ำ ไม่มีราศี ทำให้ดูไม่น่ามอง แสดงถึงความไม่ดูแลตนเอง ดังนั้นเราควรแก้ปัญหาหน้าหมองคล้ำด้วย 6 วิธีแก้หน้าหมองคล้ำในหัวข้อถัดไปเลยค่ะ
6 วิธีแก้ปัญหาหน้าหมองคล้ำ ให้ผิวกลับมาใส
เรารู้ถึงสาเหตุและปัญหาของหน้าหมองคล้ำกันแล้ว ดังนั้นหลายคนก็คงอยากจะแก้หน้าหมองคล้ำเร่งด่วน มีวิธีแก้หน้าหมองคล้ำที่ได้ผลหรือไม่ สามารถตอบแบบรวม ๆ ได้ว่าเราสามารถฟื้นฟูผิวหน้าหมองคล้ำที่เป็นปัญหาของหลาย ๆ คนได้ด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม และดูแลตนเองให้มากขึ้น แต่ฟังดูแล้วกว้างเกินไปใช่ไหมคะ บางคนอาจนึกภาพไม่ออกว่าจะต้องปฏิบัติตนอย่างไร สามารถอ่านได้จากหัวข้อนี้เลยค่ะ
วิธีที่ 1 ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ลดผิวหมองคล้ำ
อย่างแรกเลยคือการปรับพฤติกรรม ไลฟ์สไตล์ของตนเอง หากเป็นคนที่นอนดึก นอนน้อยก็ควรจะเข้านอนให้เร็วขึ้น หรืออย่างน้อยสุดต้องพักผ่อนให้ได้ประมาณ 7-8 ชั่วโมงต่อวัน เพื่อให้ร่างกายได้ฟื้นฟูส่วนที่สึกหรอไปในระหว่างวัน และควรจะดื่มน้ำให้เพียงพอ เพราะจะช่วยให้ระบบไหลเวียนโลหิตทำงานดีขึ้น และการรับประทานอาหารก็ยิ่งมีผลต่อผิวพรรณมาก เพราะร่างกายจะนำสารอาหารที่เรารับประทานเข้าไปช่วยบำรุงและซ่อมแซมร่างกาย ดังนั้นหากรับประทานอาหารที่มีประโยชน์อย่างเพียงพอก็จะช่วยให้ร่างกายได้บำรุงอย่างเต็มที่ค่ะ ยกตัวอย่างเช่น การรับประทานอาหารที่มีวิตามินซี เช่น ผัก ผลไม้ต่าง ๆ อย่างพวกส้ม สตอเบอรี่ เพราะวิตามินซีมีสารต้านอนุมูลอิสระช่วยให้ผิวพรรณดูเปร่งปรั่ง กระจ่างใสขึ้นค่ะ
วิธีที่ 2 ฟื้นฟูหน้าหมองด้วยครีมบำรุงผิว
เป็นหนึ่งในวิธียอดฮิตในการฟื้นฟูผิวหน้าหมองคล้ำค่ะ ด้วยมลภาวะ ฝุ่นละออก แสงแดด ซึ่งเป็นศัตรูต่อผิวแล้ว ปัจจัยอื่น ๆ อย่างอายุที่มากขึ้น การพักผ่อนไม่เพียงพอ ผิวขาดน้ำ ผิวแพ้ง่าย เป็นสิ่งที่ทำให้การผลัดเซลล์ผิวช้าลงเกิดผิวหน้าหมองคล้ำค่ะ จึงควรใช้ครีมบำรุงอย่างสม่ำเสมอเพื่อช่วยให้ผิวแข็งแรงและกระจ่างใสขึ้น โดยอาจเลือกครีมบำรุงที่มีส่วนผสมของ AHA วิตามินซี (Vitamin C) เรตินอย (Retinoid) ที่มีฤทธิ์กระตุ้นผลัดเซลล์ผิว ทำให้หน้าแลดูกระจ่างใสขึ้น หรือในครีมบำรุงอาจมีส่วนผสมประเภทกรดไฮยารูลอนที่ช่วยในเรื่องความชุ่มชื้น ไม่แห้งกร้าน หรือในครีมบำรุงผิวอาจมีส่วนผสมอื่น ๆ ที่ช่วยในช่วยฟื้นฟูผิวให้แข็งแรง เมื่อผิวแข็งแรงก็จะเกิดหน้าหมองคล้ำได้ยากขึ้นค่ะ
เราจะเห็นได้ว่ามีผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มากมายในตลาด หากใครยังไม่มีแบรนด์ในดวงใจ เราขอแนะนำผลิตภัณฑ์จาก Bioderma ซึ่งแบรนด์นี้ถือได้ว่าเป็นแบรนด์ผลิตเวชสำอางที่มีความเชี่ยวชาญด้านชีววิทยาของผิว โดยการสร้างผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ภายใต้แบรนด์ Bioderma จะให้ความสำคัญต่อความสมดุลตามธรรมชาติของผิว ดังนั้นจึงสามารถวางใจได้ว่าผลิตภัณฑ์เวชสำอางจาก Bioderma จะช่วยให้ผิวของคุณแข็งแรงขึ้น และดูสุขภาพดีค่ะ
วิธีที่ 3 ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยผลัดเซลล์ผิว หรือสครับผิวหน้าบ้าง
ตามกลไกของระบบผิวหนังของเราจะมีการสร้างเซลล์ผิวหนังใหม่อยู่ตลอด ส่วนเซลล์ผิวเก่าที่เสื่อมสภาพ หรือตายแล้วที่อยู่ส่วนนอกสุดก็จะหลุดออกไป แต่ในบางส่วนเซลล์ผิวเก่าก็ยังตกค้างอยู่บนใบหน้า จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้หน้าหมองคล้ำ ผิวหยาบกร้าน และเมื่อทาครีมบำรุงหน้าใด ๆ เซลล์ผิวเก่าพวกนี้ก็จะขัดขวางไม่ให้ครีมบำรุงผิวซึมผ่านผิวหนังได้โดยง่ายค่ะ จึงเห็นได้ว่า ถึงแม้เราจะบำรุงแค่ไหนแต่หากไม่เคยสครับผิวหน้าเลยผลของผลิตภัณฑ์นั้น ๆ ก็จะน้อยลงค่ะ ดังนั้นจึงควรสครับผิวหน้าเพื่อผลัดเซลล์ผิวเก่าออกบ้าง จะไปกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ และช่วยให้หน้าดูกระจ่างใส ไม่หน้าโทรมหมองคล้ำ และริ้วรอยดูจางลงด้วยค่ะ แต่อย่างไรก็ตามไม่ควรจะสครับหรือผลัดเซลล์ผิวหน้ามากเกินไป เนื่องจากจะทำให้ผิวระคายเคือง อักเสบ จนเกิดผิวแพ้ง่าย แนะนำควรผลัดเซลล์ผิวหน้าเพียง 1 ครั้งต่อสัปดาห์ก็เพียงพอค่ะ
วิธีที่ 4 ทาครีมกันแดดอย่างสม่ำเสมอ
อย่างที่ได้กล่าวไปข้างต้นว่าสาเหตุหลัก ๆ ที่ทำลายผิวและทำให้หน้าหมองคล้ำเกิดจากรังสีอัลตราไวโอเลต หรือ UVA UVB ในแสงแดดค่ะ สำหรับรังสี UVB อาจป้องกันได้โดยไม่อยู่ในที่กลางแจ้งในตอนกลางวัน แต่สำหรับ UVA นั้นไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็จะได้รับรังสี UVA อยู่ตลอดค่ะ ดังนั้นจึงจำเป็นจะต้องทาครีมกันแดดเป็นประจำ เพราะในครีมกันแดดจะช่วยป้องกันรังสี UVA และ UVB ได้ ในกรณีที่อยู่กลางแจ้ง ครีมกันแดดก็จะช่วยป้องกันผิวเราจากรังสี UVB ทำให้ไม่เกิดผิวไหม้แดด ป้องกันรังสี UVA ที่จะทะลวงเข้าสู่ผิวหนังของเรา แทนการให้ร่างกายสร้างเม็ดสีเมลานินขึ้นเพื่อป้องกันรังสี จนเป็นสาเหตุที่ทำให้ผิวหมองคล้ำ
เพราะส่วนผสมของครีมกันแดดมักจะทำให้เหนียวเหนอะหนะ มีคราบขาวเกลี่ยยาก หรือทำให้อุดตัน หน้ามันได้ง่าย ดังนั้นจึงทำให้หลาย ๆ คนเลี่ยงการใช้ครีมกันแดด และป้องกันตัวจากแสงแดดโดยไม่ออกไปที่กลางแจ้ง แต่นั่นเป็นการป้องกันแค่บางส่วนเท่านั้น อย่างที่ได้กล่าวไปก่อนแล้วว่ารังสี UVA สามารถทะลวงกระจกได้ ดังนั้นถึงแม้จะอยู่ในร่มก็ยังหลบรังสี UVA ไม่พ้นค่ะ เพื่อป้องกันผิวจึงจำเป็นต้องทาครีมกันแดด และต้องทาบ่อย ๆ ทุก ๆ 2 ชั่วโมงเพื่อประสิทธิภาพที่ดีค่ะ เพราะครีมกันแดดสามารถกันแดดได้แค่ในช่วง 2 ชั่วโมงแรกเท่านั้นค่ะ
เพราะอย่างนั้นการทาครีมกันแดดจึงสำคัญมาก แต่หากไม่ชอบความข้น เหนียมเหนอะหนะของครีมกันแดด เราของแนะนำผลิตภัณฑ์ครีมกันแดดจาก Bioderma อย่างเช่น
- BIODERMA PHOTODERM AKN MAT SPF 30 ครีมกันแดดเนื้อแมทบางเบา ปกป้องสูงด้วยระบบ dual action พร้อมยับยั้งการเกิดสิวที่ต้นเหตุ เหมาะสำหรับผิวผสมถึงผิวมัน ผิวมีแนวโน้มเป็นสิวง่าย หรือมีสิวเล็กน้อยถึงปานกลาง สามารถปกป้องผิวจาก UVA UVB ได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถกันน้ำ แต่ไม่มีสารก่อให้เกิดการอุดตัน และสารก่อการแพ้ค่ะ
- BIODERMA PHOTODERM MAX AQUAFLUIDE SFP50+ ครีมกันแดดทาหน้า สำหรับทุกสภาพผิว แม้ผิวบอบบางแพ้ง่าย สูตรน้ำนม เกลี่ยง่าย สบายผิว ไม่อุดตัน ป้องกัน UVA UVB ยาวนาน 8 ชั่วโมง ช่วยให้ผิวไม่หมองคล้ำ ผ่านการทดสอบด้วยมาตรฐานแพทย์ผิวหนัง ว่าอ่อนโยนใช้ในผิวบอบบาง แพ้ ระคายเคืองง่ายค่ะ
วิธีที่ 5 ลด ละ เลิกการสูบบุหรี่
เพราะบุหรี่อันตรายทั้งต่อร่างกายและผิวหนัง ถ้าหากไม่อยากผิวหน้าโทรมหมองคล้ำ ดูไม่น่ามองแล้วล่ะก็ การลด ละ เลิกการสูบบุหรี่ก็จะเป็นการตัดปัจจัยที่ก่อให้เกิดหน้าหมองคล้ำไป ช่วยให้ผิวกลับมาดูสดใสขึ้น
วิธีที่ 6 ดูแลสุขภาพจิตใจ ลดความเครียด
ความเครียดเป็นสาเหตุที่ทำให้หน้าหมองคล้ำ ไม่สดใส ดังนั้นควรหลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่ก่อให้เกิดความเครียด หรือหากิจกรรมที่สามารถช่วยคลายเครียดได้ เช่น การนอนหลับพักผ่อน ฟังเพลง อ่านหนังสือ ออกกำลังกาย นั่งสมาธิ เป็นต้น
ข้อสรุป
หน้าหมองคล้ำเกิดจากหลาย ๆ ปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นพฤติกรรมส่วนบุคคล หรือมลภาวะ สิ่งแวดล้อมภายนอก ดังนั้นหากไม่อยากหน้าโทรมหมองคล้ำก็ควรจะปรับเปลี่ยนพฤติกรรม และหากจะให้ผลลัพธ์ดียิ่งขึ้นควรทำควบคู่ไปกับใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้า และครีมกันแดด ที่จะไปช่วยในการฟื้นฟูผิวหน้าหมองคล้ำ และป้องกันปัจจัยที่ทำให้หน้าหมองคล้ำ ทำให้หน้ากลับมาดูกระจ่างใส และสดใสขึ้นค่ะ