กรมธรรม์รถยนต์ มีกี่ประเภท รู้ก่อนทำ
เมื่อเอ่ยถึง กรมธรรม์รถยนต์หลายคนอาจสงสัยและทำหน้างุนงง หรือรู้สึกว่ามันซับซ้อนเกินจะเข้าใจ เหมือนต้องทำความเข้าใจใหม่ แต่ความจริงถ้าคุณเข้าใจให้ลึกซึ้งเพียงพอ กรมธรรม์รถยนต์จะกลายเป็นหนึ่งในเครื่องมือที่ฉลาดที่สุดในการเพิ่มความอุ่นใจบนท้องถนนและช่วยประหยัดเงินในกระเป๋าได้
บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับ กรมธรรม์รถยนต์ ให้เข้าใจง่าย พร้อมเคล็ดลับในการประหยัดค่าเบี้ยอย่างชาญฉลาดแบบไม่ต้องง้อโปรโมชั่น
สารบัญบทความ
- กรมธรรม์รถยนต์มีกี่ประเภท? แตกต่างกันอย่างไร?
- เอกสารจำเป็นเมื่อต้องทำกรมธรรม์รถยนต์มีอะไรบ้าง?
- เคล็ดลับต่ออายุกรมธรรม์รถยนต์ให้ได้ส่วนลดสูงสุ
กรมธรรม์รถยนต์มีกี่ประเภท? แตกต่างกันอย่างไร?
หาก กรมธรรม์รถยนต์ คือชุดเกราะที่คุณเลือกเพื่อใช้ในการปกป้องรถของคุณ ซึ่งไม่ได้มีแค่แบบเดียว แต่มีหลายระดับตั้งแต่ชุดหนังไปจนถึงชุดเกราะเหล็ก โดยแบ่งออกเป็น 4 ประเภทหลัก ดังนี้
- ประกันชั้น 1
เป็นประกันที่ให้ความคุ้มครองทั้งรถคุณและรถคู่กรณี คุ้มครองทั้งกรณีชนแบบมีคู่กรณีและไม่มีคู่กรณี รวมถึงความเสียหายจากอุบัติเหตุ ไฟไหม้ น้ำท่วม และกรณีรถหาย ถือว่าเป็นกรมธรรม์ที่ให้ความคุ้มครองสูงสุด เหมาะสำหรับรถใหม่หรือรถราคาแพง
- ประกันชั้น 2+
เป็นประกันที่ให้ความคุ้มครองรองจากประกันชั้น 1 แม้จะไม่คุ้มครองอุบัติเหตุที่ไม่มีคู่กรณี เช่น เสาไฟ รั้วบ้าน แต่ยังให้ความคุ้มครองทั้งรถคุณ รถคู่กรณี (กรณีชนกับยานพาหนะทางบก) ความเสียหายจากอุบัติเหตุ ไฟไหม้ และแม้แต่กรณีรถหาย เหมาะสำหรับรถเก่าที่มีอายุ 5 – 10 ปี ซึ่งต้องการความคุ้มขั้นสูงอยู่
- ประกันชั้น 3+
ในส่วนของประกันชั้น 3+ จะให้ความคุ้มครองเหมือนกับประกันชั้น 2+ หากแต่จะต้องเป็นการเกิดอุบัติเหตุเฉพาะยานพาหนะทางบกและมีคู่กรณีเท่านั้น ในส่วนของไฟไหม้หรือรถหายจะไม่ได้รับความคุ้มครอง เหมาะสำหรับรถเก่าหรือรถที่ใช้งานน้อยและต้องการความคุ้มครองให้กับรถของตนเองอยู่
- ประกันชั้น 3
เป็นประกันรถที่ให้ความคุ้มครองขั้นพื้นฐาน นั่นคือให้ความคุ้มครองรถของคู่กรณี ค่ารักษาพยาบาลทั้งคนในรถของผู้ทำประกันและรถของคู่กรณี ไม่คุ้มครองรถไฟไหม้ น้ำท่วม หรือสูญหาย จึงเหมาะสำหรับรถเก่า ใช้น้อย และต้องการลดความเสี่ยงให้กับตนเองบนท้องถนน
เอกสารจำเป็นเมื่อต้องทำกรมธรรม์รถยนต์มีอะไรบ้าง?
อยากทำ กรมธรรม์รถยนต์ แต่ไม่รู้ต้องใช้เอกสารอะไร วันนี้เรารวบรวมทุกอย่างที่สำคัญไว้ให้แล้ว
- สำเนาทะเบียนรถ เพื่อยืนยันว่าเป็นเจ้าของรถตัวจริง
- สำเนาบัตรประชาชน ใช้ยืนยันการรับสิทธิ์เวลาที่ต้องเคลมประกันและเป็นเจ้าของรถตัวจริง
- ใบขับขี่ มีไว้เผื่อใช้เป็นส่วนลดค่าเบี้ยสำหรับคนที่มีประสบการณ์การขับขี่มากพอ
- สำเนากรมธรรม์ประกันรถยนต์เดิม (ถ้ามี) หากต้องย้ายหรือเปลี่ยนบริษัทประกันจำเป็นที่จะต้องส่ง เพื่อตรวจสอบประวัติการเคลมและอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
เคล็ดลับต่ออายุกรมธรรม์รถยนต์ให้ได้ส่วนลดสูงสุด
รู้หรือไม่ว่าค่าเบี้ยจะค่อย ๆ ลดลงตามจำนวนอายุของรถและส่วนลดอื่น ๆ ที่ผู้แทนขายไม่ได้บอก ซึ่งจะมีอะไรบ้างที่นำมาเป็นส่วนลดค่าเบี้ยไปดูกัน
- ไม่เคลม = ส่วนลดประวัติดี
หากปีที่ผ่านมาไม่เคยเคลมเลย คุณมีสิทธิ์ได้รับส่วนลดประวัติดี อย่าลืมแจ้งประวัติทุกครั้งเมื่อเปลี่ยนบริษัทประกัน
- เปรียบเทียบราคาทุกปี
การเปรียบเทียบราคาผ่านเว็บไซต์ อย่างเช่นเว็บไซต์ insurverse ซึ่งคุณสามารถเข้าไปปรับลดเบี้ยประกันเองได้ จะช่วยให้ได้ความคุ้มครองเหมาะสมกับงบประมาณที่คุณมี
- ระบุตัวผู้ขับขี่
หากคุณเป็นเจ้าของรถและขับมือเดียวตลอดให้ระบุชื่อผู้ขับขี่ไปเลยเพราะค่าเบี้ยจะลดลงอีก
- เลือกซ่อมอู่หรือซ่อมห้างอย่างมีสติ
หากรถคุณหมดประกันศูนย์แล้ว (รถใหม่อายุไม่เกิน 3 ปี) การเลือกซ่อมอู่แทนซ่อมห้างอาจช่วยลดเบี้ยได้หลายพันบาทต่อปี
- กล้องติดหน้ารถ
ปัจจุบันกล้องติดหน้ารถสามารถนำมาเป็นส่วนลดในการต่อประกันได้แล้ว เพราะสามารถใช้เป็นหลักฐานในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ
การทำ กรมธรรม์รถยนต์ ไม่ใช่เรื่องน่าเบื่อถ้าคุณรู้วิธีคิดให้เหมือนนักวางแผน ไม่ว่าจะเป็นการเลือกประเภทกรมธรรม์ให้ตรงจุด เตรียมเอกสารแบบไม่ต้องง้อเซียน หรือใช้ทริคต่ออายุเพื่อกดราคาลง คุณสามารถคุ้มครองตัวเองและกระเป๋าเงินไปพร้อมกัน อย่าลืมว่ากรมธรรม์รถยนต์ไม่ใช่แค่ภาระ แต่มันคือเครื่องมือที่บอกว่าคุณวางแผนชีวิตดีแค่ไหน